วันนี้ (7 กันยายน) ที่โรงงานมักกะสัน เขตราชเทวี ทีมข่าว THE STANDARD ได้เยี่ยมชมความก้าวหน้าการปรับปรุงรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น KIHA 183 หลังจากที่ได้ทดลองเปิดเดินรถจากสถานีมักกะสัน-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2565
ด้าน นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ผู้ว่า รฟท.) กล่าวว่า ตามที่ รฟท. ได้รับมอบรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น KIHA 183 จากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR Hokkaido) ประเทศญี่ปุ่น มาจำนวน 17 คัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งประกอบด้วยรถดีเซลรางปรับอากาศแบบมีห้องขับสูง (High Cab) 40 ที่นั่ง จำนวน 8 คัน, รถดีเซลรางปรับอากาศแบบไม่มีห้องขับ 68 ที่นั่ง จำนวน 8 คัน และรถดีเซลรางปรับอากาศแบบมีห้องขับต่ำ (Low Cab) 52 ที่นั่ง จำนวน 1 คัน และได้ส่งมอบรถมาถึงเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 เพื่อดัดแปลงเป็นตู้รถไฟสำหรับให้บริการแก่ประชาชน และส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศนั้น
ทาง รฟท. โดยฝ่ายการช่างกล ได้ดำเนินการปรับปรุงรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น KIHA 183 เสร็จสมบูรณ์แล้ว 3 คัน พร้อมกับได้นำมาเปิดทดลองเดินรถเส้นทางสถานีมักกะสัน-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ เป็นครั้งแรก สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งภายหลังจากทดสอบประสิทธิภาพขบวนรถชุดแรกแล้วเสร็จ รฟท. จะเร่งปรับปรุงรถคันอื่นที่เหลือเพื่อเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบ
สำหรับการปรับปรุงรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น KIHA 183 รฟท. ได้ปรับขนาดความกว้างของล้อจาก 1.067 เมตร ให้เป็นขนาด 1 เมตร ตามมาตรฐานทางรถไฟไทย รวมถึงได้ทดสอบสมรรถนะของรถ โดยวางแผนปรับปรุงรถเป็น 4 ชุด ชุดละ 4 คัน โดยคำนึงถึงความเหมาะสมในการใช้งาน ควบคู่กับการรักษาเอกลักษณ์กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ในระยะแรกทาง รฟท. ได้ปรับปรุงภายในรถใหม่ โดยมีการตรวจสอบระบบการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบห้ามล้อ ระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ รวมถึงทำความสะอาดภายใน ซักล้างเบาะที่นั่ง ผ้าม่าน ปรับปรุงป้ายสัญลักษณ์ภายในจากภาษาญี่ปุ่นให้มีภาษาอังกฤษเพิ่มเติม พร้อมระบบห้องสุขา โดยได้ทดลองระบบการทำงานแบบเสมือนจริงทั้งหมด อีกทั้งยังได้ดัดแปลงชุดหัวท่อเติมน้ำใช้และชุดหัวสูบถ่ายจากถังเก็บสิ่งปฏิกูล ให้สามารถใช้ร่วมกับรถโดยสารประเภทชุดด้วย
ขณะที่การปรับปรุงภายนอกตัวรถ มีการดัดแปลงและปรับปรุงนำโคมไฟส่องทางด้านบนของตัวรถออก เนื่องจากเกินเขตโครงสร้างของรถ (Loading Gauge) และได้ย้ายไฟมาติดตั้งที่หน้ารถบริเวณซ้ายและขวาจำนวน 2 ดวง ตลอดจนดัดแปลงบันไดให้สามารถขึ้น-ลงชานชาลาต่ำได้ รวมถึงปรับสภาพผิวตัวรถภายนอกโดยได้ขัดทำสีใหม่ด้วยการใช้น้ำยาลอกสีแทนการใช้ความร้อน เพื่อไม่ให้เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงใช้เฉดสีเดิมเพื่อคงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอยู่
ส่วนแผนการปรับปรุงรถระยะที่ 2 รฟท. ได้วางแผนการซ่อมบำรุงใหญ่เพื่อเพิ่มสมรรถนะให้บริการเดินรถได้ในระยะยาว เช่น การเปลี่ยนล้อ เพลา พร้อม Bearing, เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่, เปลี่ยนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใหม่, เปลี่ยนเครื่องทำลมอัด (Air Compressor) ใหม่, ปรับปรุงระบบปรับอากาศ, ปรับปรุงระบบไฟแสงสว่างเป็น 220 v. และระบบไฟฟ้าทั้งหมดเป็น 380 v. / 220 v. 50 Hz โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการครบทุกคันประมาณ 2 ปี
ทั้งนี้ ภายหลังจากปรับปรุงขบวนรถ KIHA 183 เสร็จครบถ้วน รฟท. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพื่อกำหนดเส้นทางให้บริการ โดยจะเริ่มให้บริการในเส้นทางระยะสั้นแบบวันเดย์ทริป ขบวนสำหรับเทศกาลในวันสำคัญ หรือให้บริการเช่าเหมาขบวนก่อน เพื่อตอบสนองความต้องการและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการสูงสุด ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนธันวาคม 2565
