ยุทธศาสตร์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ที่กุมบังเหียนโดย ‘เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์’ มหาเศรษฐีเบอร์ 1 ของไทย ชัดเจนแล้วว่าต้องการบุกหนักในต่างประกาศ ซึ่งล่าสุด Bloomberg รายงานว่า เครือ CP เป็นหนึ่งที่กลุ่มธุรกิจที่สนใจเข้าร่วมประมูล ‘ห้างค้าส่ง Metro’ ในอินเดีย
กระนั้นการประมูลครั้งนี้ก็อาจไม่ง่ายนัก เพราะรายงานระบุว่า Reliance อันเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้ Mukesh Ambani มหาเศรษฐีชาวอินเดีย และ Amazon ของมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลกก็สนใจที่จะเข้าร่วมแย่งชิงเหมือนกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- “เราควรทำธุรกิจเชิงรุก ไม่ควรตั้งรับอยู่ในเมืองไทย” จากปาก ‘ศุภชัย เจียรวนนท์’ ถึงการรวม Makro และ Lotus’s มาอยู่ชายคาเดียวกัน ตั้งเป้าเจาะกำลังซื้อ 2,000 ล้านคน
- เจาะลึก CP ตัด Tesco ออก เหลือแต่ Lotus’s วางเป้า 3 ปีรายได้ต้องโต 2 เท่า ก่อนปูทางสู่นามสกุล ‘มหาชน’
- สลัดภาพเทสโก้ทิ้งไป! มองเครือ CP ยกเครื่อง ‘โลตัส’ ด้วยชื่อแบรนด์ใหม่เติม ‘เอส’ ดิจิทัล และอาหารสด พร้อมนำโนว์ฮาวจาก 7-Eleven มาเสริมแกร่ง
- ‘เทสโก้ โลตัส’ คืนสู่มือซีพี ดีลนี้จะเปลี่ยนสมรภูมิค้าปลีกให้ร้อนแรงขึ้นแค่ไหน
Metro ซึ่งเป็นเชนห้างค้าส่งสัญญาติเยอรมนีได้ทำงานร่วมกับที่ปรึกษาในการขายธุรกิจอินเดีย ซึ่งคาดว่าจะมีราคา 1-1.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 3.6-4.4 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มประมูลได้เร็วสุดในเดือนเดือนสิงหาคม
สำหรับ Metro เข้าสู่ตลาดอินเดียในปี 2003 และปัจจุบันมีศูนย์กระจายสินค้าขายส่ง 31 แห่งทั่วประเทศ โดยให้บริการเฉพาะลูกค้าธุรกิจเท่านั้น ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร ตลอดจนผู้ค้าปลีกรายย่อย
ก่อนหน้านี้ ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานกรรมการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้ขยายความในการให้สัมภาษณ์ในรายการ The Secret Sauce ของ THE STANDARD ว่าโอกาสในตลาดต่างประเทศของทั้ง Makro และ Lotus’s อยู่ที่กลุ่มประเทศที่อยู่ใต้เส้น S-Curve ของธุรกิจโมเดิร์นเทรด ทั้งอินเดีย เวียดนาม ศรีลังกา ลาว และอินโดนีเซีย ซึ่งประเทศเหล่านี้ประชากรมีรายได้และการเข้าถึงธุรกิจโมเดิร์นเทรดยังไม่สูงนัก
“ที่น่าสนใจคือกลุ่มประเทศที่อยู่ใต้เส้น S-Curve นั้น เปรียบเสมือน Makro และ Lotus’s ที่เริ่มทำธุรกิจเมื่อ 20 ปีก่อน ถ้าวันนี้เราไปลงทุนในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศเหล่านี้ อีก 10-15 ปี Makro และ Lotus’s ก็จะเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูง มีโอกาสเป็นผู้นำธุรกิจในประเทศเหล่านั้น”
เชื่อว่าที่เครือ CP สนใจ ‘ห้างค้าส่ง Metro’ ในอินเดีย นอกจากจะตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ที่ศุภชัยกล่าวแล้วยังเป็นการต่อจิ๊กซอว์ให้ Makro ด้วย
อย่างไรก็ตาม บล.โนมูระ ได้ออกบทวิเคราะห์ที่ระบุว่า แม้ Makro หรือ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จะมีศักยภาพในการลงทุนเหลือมาก แต่หากเป็นจริงดีลดังกล่าวจะยังไม่ส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานในระยะสั้น หลังช่วงที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีกค้าส่งในอินเดียมีการแข่งขันสูงและได้รับผลกระทบจากโควิด
ตามข้อมูล Metro ตั้งแต่ปี 2003 มียอดขายช่วงปี 2020/21 ที่ 765 ล้านยูโร (-3%YoY) หรือเทียบเท่าราว 2.78 หมื่นล้านบาทในขณะที่ Makro มีสาขาในอินเดียอยู่แล้ว 3 แห่ง ในชื่อ Lot’s โดยตามแผนคาดจะเปิดสาขาเพิ่มในปีนี้อีก 1-2 แห่ง มีเงินลงทุนต่อสาขา (ไม่รวมค่าเช่าและที่ดิน) เพียง 60-80 ล้านบาท
ภาพ: Indranil Aditya / NurPhoto via Getty Images
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP