85 ล้านปอนด์ จับตาลิเวอร์พูลอาจทุบกระปุกคว้าตัว ดาร์วิน นูนเญซ

ลิเวอร์พูลอยากได้ ดาร์วิน นูนเญซ?

ดูเหมือนกระแสข่าวเชื่อมโยงระหว่างกองหน้าสุดฮอตทีมชาติอุรุกวัยกับทีมดับเบิลแชมป์ (และดับเบิลรองแชมป์) อย่างลิเวอร์พูลจะเริ่มจริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ โดยหลังจากที่เริ่มมีการกล่าวถึงโดยนักข่าวที่ได้รับการยอมรับระดับสูงเรื่องแหล่งข่าวอย่าง พอล จอยซ์ ที่ระบุว่าลิเวอร์พูลมีความสนใจในตัวกองหน้าเบนฟิกา

ต่อด้วยเมื่อคืนที่ผ่านมามีรายงานข่าวใน Record สื่อประเทศโปรตุเกส ว่าทีมดังจากลิสบอนตั้งค่าตัวของนูนเญซเอาไว้ที่ 85 ล้านปอนด์ หรือ 100 ล้านยูโร (3.6 พันล้านบาท) โดยที่ลิเวอร์พูลยินดีที่จะจ่ายค่าตัวตามนั้นด้วย และนักเตะเองมีความปรารถนาที่จะย้ายมาอยู่ในแอนฟิลด์เช่นกัน

ล่าสุดสื่อมวลชนในอังกฤษเริ่มรายงานไปในทิศทางเดียวกันว่าลิเวอร์พูลพร้อมที่จะทุบสถิตินักฟุตบอลค่าตัวแพงที่สุด ที่เดิมเป็นของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เมื่อครั้งย้ายจากเซาแธมป์ตันมาอยู่กับลิเวอร์พูลในปี 2018 ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์

ตามรายงานข่าวจาก The Times ระบุว่า นูนเญซเป็นนักเตะที่ เจอร์เกน คล็อปป์ ต้องการได้ตัวมาเสริมทีมในช่วงปิดฤดูกาลนี้เพื่อปรับกระบวนทัพในแนวรุกของทีมที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเสีย ซาดิโอ มาเน กองหน้าตัวเก่งที่อยู่คู่กับบอสชาวเยอรมันมากว่า 6 ปีให้กับบาเยิร์น มิวนิก

นูนเญซเองมีโอกาสโชว์เพลงแข้งให้คล็อปป์และทีมงานได้เห็นในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ทำประตูทั้งเกมที่เอสตาดิโอ ดา ลุซ รังของเบนฟิกา และที่แอนฟิลด์ของลิเวอร์พูล เรียกได้ว่าสามารถสร้างความประทับใจได้ไม่น้อยในการเล่นที่อันตรายอย่างยิ่ง

คล็อปป์ได้กล่าวถึงกองหน้าดาวรุ่งหลังจบเกมว่า “เขาเป็นเด็กที่ดูหล่อเหลามาก และเป็นนักฟุตบอลที่เก่งมากด้วย ผมรู้จักเขามาก่อนแล้ว แต่เขาเล่นได้ดีมากต่อหน้าผมในการต่อสู้ระหว่างเขากับ อิบราฮิมา โกนาเต

“เขามีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก รวดเร็ว และเลือดเย็นในจังหวะจบสกอร์ ถือว่าเก่งมาก ซึ่งเวลาเจอนักเตะแบบนี้ผมมักจะบอกเสมอว่าถ้าเขายังดูแลตัวเองดี เขาจะมีอนาคตที่ยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้า”

ในการพบกับลิเวอร์พูล นอกเหนือจากความเร็ว ความคม และความอันตรายแล้ว อีกสิ่งที่นูนเญซได้โชว์ให้เห็นคือการสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุก โดยในเกมที่แอนฟิลด์ครึ่งแรกลงเล่นในบทศูนย์หน้า แต่ในครึ่งหลังขยับไปยืนปีกซ้ายและสามารถทำได้ดีมากด้วย

จุดนี้อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษถ้าจะต้องมาเพื่อทดแทนมาเน ที่เวลานี้ยังไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนแต่อย่างใดว่าจะอยู่หรือไปจากแอนฟิลด์ โดยลิเวอร์พูลและบาเยิร์น มิวนิกยังอยู่ในระหว่างกระบวนการเจรจา ซึ่งทางสตาร์ชาวเซเนกัลไม่ต้องการที่จะเอ่ยปากใดๆ ในเรื่องนี้อีก หลังเคยให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นในบ้านเกิดและถูกนำไปตีข่าวใหญ่โต

นอกเหนือจากมาเนแล้ว ลิเวอร์พูลซึ่งก่อนหน้านี้สูญเสียกองหน้าตัวสำรองชั้นดีอย่าง ดิวอค โอริกิ ไปแล้ว ยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องอนาคตของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต เฟียร์มิโน ที่เหลือสัญญาอีกแค่คนละ 1 ปีเท่านั้น ไม่นับ ทาคุมิ มินามิโนะ กองหน้าตัวสำรองชาวญี่ปุ่นที่สโมสรพร้อมเปิดทางให้ย้ายออกจากทีมเช่นกันหากต้องการเริ่มต้นชีวิตการเล่นใหม่

นั่นหมายถึงในบรรดากองหน้าที่มีอยู่คล็อปป์ เหลือนักเตะที่อยู่ในแผนระยะยาวแค่ 2 รายเท่านั้นคือ ดีโอโก โชตา ดาวยิงชาวโปรตุเกสและ หลุยส์ ดิอาซ ปีกจรวดชาวโคลอมเบีย และมีกองหน้าดาวรุ่งที่ได้มาใหม่อย่าง ฟาบิโอ คาร์วัลโญ กับ เคด กอร์ดอน ที่มาจากทีมเยาวชนของสโมสร

สถานการณ์ดังกล่าวเป็นสถานการณ์ที่เหมือนคลื่นใต้น้ำที่น่ากังวลใจสำหรับลิเวอร์พูล และเป็นความท้าทายของ จูเลียน วอร์ด ผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่ที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งต่อจาก ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ว่าจะทำให้แนวรุกของทีมกลับมามีความมั่นคงได้อีกครั้งหรือไม่

อย่างไรก็ดี ลิเวอร์พูลยังไม่มีการยื่นข้อเสนอในเวลานี้แต่อย่างใด โดยยังเปิดกว้างสำหรับเป้าหมายรายอื่นด้วย เนื่องจากค่าตัวของนูนเญซถือว่าสูงมาก นอกจากนี้ยังมีอีกหลายสโมสรที่ให้ความสนใจรวมถึงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ต้องการได้ตัวเช่นกัน ซึ่งลิเวอร์พูลไม่มีนโยบายที่จะเข้าร่วมวงจนกลายเป็นการปั่นราคาให้สูงขึ้นจนเกินสิ่งที่ควรจะเป็น

ข้อมูลเพิ่มเติม:

ครั้งหนึ่ง หลุยส์ ซัวเรซ เคยแนะนำให้บาร์เซโลนารีบคว้าตัว ดาร์วิน นูนเญซ มาร่วมทีม แต่บาร์ซาไม่ได้สนใจ
เบนฟิกาได้ตัวกองหน้ารายนี้มาจากอัลเมเรีย สนนราคา 24 ล้านยูโร เมื่อปี 2020 ขณะที่อัลเมเรียก็ได้ตัวมาจากเพนาโรล ทีมในดวงใจของนูนเญซด้วยค่าตัว 4 ล้านยูโร ในสมัยที่ทีมอยู่เซกุนดา เบ ลีกลำดับ 2 ของสเปน
หากนูนเญซย้ายทีม ไม่ว่าจะค่าตัวเท่าไรก็ตาม อัลเมเรียจะได้เงินส่วนแบ่ง 20 เปอร์เซ็นต์จากการย้ายทีมด้วย
ในฤดูกาลที่ผ่านมานูนเญซทำไป 34 ประตู จากการลงเล่น 41 นัดรวมทุกรายการ

อ้างอิง: