วันนี้ (10 พฤษภาคม) เวลา 09.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาอุทธรณ์คดีพันธมิตรชุมนุมที่สถานีโทรทัศน์ NBT ปี 2551 ตามคดีหมายเลขที่ อ.1033/2561 โดยมีพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.), อัญชะลี ไพรีรัก หรือ ปอง, ภูวดล ทรงประเสริฐ, ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที แนวร่วม และ ชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายของ สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุก มั่วสุม สร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง อั้งยี่ซ่องโจรฯ กรณีร่วมกันบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ในช่วงการชุมนุมของ พธม. เพื่อขับไล่รัฐบาล สมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551
วันนี้มีอัญชะลีและยุทธิยง แนวร่วม พธม. เดินทางมาฟังคำพิพากษา ส่วนสมเกียรติเสียชีวิตแล้ว และภูวดลมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง
ด้านอัญชะลีและยุทธิยงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม โดยทั้งสองได้กล่าวถึงคดีนี้ว่าศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกคนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา เป็นคดีที่ต่างกรรมต่างวาระและต่างเหตุการณ์ ซึ่งในวันดังกล่าวพวกเราอยู่ที่ด้านหน้า NBT อยู่บนรถปราศรัย แต่เจ้าหน้าที่ได้ระบุว่า แม้จะอยู่ด้านหน้าก็มีส่วนร่วม ซึ่งตนเองก็น้อมรับคำพิพากษาและได้ประกันตัวออกมาเพื่อขออุทธรณ์ต่อ และยังมีอีกหลายคดีที่ได้ร่วมกันต่อสู้ชุมนุมมา
ส่วนความมั่นใจและกำลังใจในวันนี้ก็ยังเป็นไปตามปกติ เพราะพวกเราขึ้นศาลกันบ่อยครั้งมาก พวกเราเคารพในการพิจารณาของศาล
ต่อมาศาลอาญาได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกคนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา
ด้าน พวงทิพย์ บุญสนอง ทนายความในคดีกล่าวว่า ในส่วนของสมเกียรติที่เสียชีวิต ศาลได้จำหน่ายคดีแล้ว แต่จำเลยที่ 2-5 นั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยันตามศาลชั้นต้น ซึ่งหลังจากนี้จะยื่นขอประกันโดยใช้หลักทรัพย์คนละ 200,000 บาท รวมถึงเตรียมยื่นฎีกาเพื่อให้ศาลพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
พวงทิพย์กล่าวต่อว่า มีความกังวลในส่วนคดี แต่น้อมรับการตัดสินของศาล ส่วนเรื่องประกันคิดว่ายังอยู่ในเงื่อนไขที่ท่านสามารถใช้ดุลพินิจประกันได้
สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 5 คน เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท พิพากษาให้ลงโทษบทหนักสุด ฐานร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน ให้จำคุกสมเกียรติ จำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี (เสียชีวิตแล้ว) จำคุกอัญชะลี จำเลยที่ 2, ภูวดล จำเลยที่ 3, ยุทธิยง จำเลยที่ 4 และชิติพัทธ์ จำเลยที่ 5 คนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา