เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organization: NATO) แถลงภายหลังการประชุมสุดยอดผู้นำ NATO วาระพิเศษ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมเมื่อวานนี้ (24 มีนาคม) โดยประกาศว่าผู้นำชาติสมาชิก NATO ทั้งหมด 30 ประเทศ อนุมัติให้มีการส่งกำลังทหาร 40,000 นาย ไปประจำการใน 4 ประเทศยุโรปตะวันออก ได้แก่ สโลวาเกีย ฮังการี บัลแกเรีย และโรมาเนีย เพื่อเสริมการป้องกันและป้องปรามทางทหาร
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการเตรียมพร้อมของ NATO เพื่อรับมือภัยคุกคามด้านความมั่นคงในภูมิภาค หลังรัสเซียทำสงครามรุกรานยูเครนมากว่า 1 เดือน ขณะที่ NATO ยังเห็นพ้องให้สนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์และความช่วยเหลือเพิ่มเติมทางมนุษยธรรมไปยังยูเครน
“วันนี้ผู้นำ NATO เห็นพ้องต้องกันว่าเราต้องให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่ยูเครน เราจะยังคงเดินหน้าบังคับการชดใช้ที่ไม่เคยมีมาก่อนต่อรัสเซีย และเราจะเสริมกำลังการป้องปรามและป้องกันแก่พันธมิตร NATO” สโตลเทนเบิร์กกล่าว
ที่ผ่านมา NATO มีทหารประจำการอยู่แล้วใน 4 ประเทศยุโรปตะวันออก ได้แก่ โปแลนด์ และ 3 ประเทศรัฐบอลติก คือ ลิทัวเนีย ลัตเวีย และเอสโตเนีย โดยการเสริมกำลังทหารดังกล่าวจะส่งผลให้ NATO มีกำลังรบอยู่ใน 8 ประเทศยุโรปตะวันออก ครอบคลุมตั้งแต่พื้นที่แถบทะเลบอลติกไปจนถึงทะเลดำ
ซึ่งนอกจากนี้ NATO จะมีการเสริมอาวุธยุทโธปกรณ์และการป้องกันทางอากาศให้แก่ประเทศดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการส่งขีปนาวุธและเครื่องบินขับไล่ไปเพิ่ม ตลอดจนเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกันทางไซเบอร์และปรับปรุงการฝึกซ้อมรบ โดยมุ่งเน้นการป้องกันและการประสานงานร่วมกัน
ขณะเดียวกันผู้นำ NATO ยังเห็นพ้องให้ส่งการสนับสนุนเพิ่มเติมไปยังยูเครนเพื่อช่วยในการป้องกันการรุกรานจากรัสเซีย โดยจะมีการจัดส่งอาวุธ ทั้งระบบต่อต้านรถถังและระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ รวมถึงโดรนจู่โจมประสิทธิภาพสูงไปให้ พร้อมทั้งจะเพิ่มการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน และยืนยันว่า NATO จะช่วยเหลือยูเครนในการป้องกันตนเองจาก “ภัยคุกคามทางชีวภาพ เคมี รังสี และอาวุธนิวเคลียร์”
ทั้งนี้ สโตลเทนเบิร์กซึ่งขยายระยะเวลาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ NATO ออกไปอีก 1 ปี เพื่อรับมือวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้น ประกาศว่า “การเปิดฉากบุกยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน นั้นเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ใหญ่ที่สุดของยุคนี้” ซึ่งเขายืนยันว่าพันธมิตร NATO ต้องตอบโต้อย่างเด็ดขาด
ขณะที่ผู้นำ NATO ยังมีการเรียกร้องไปยังจีน ให้ละเว้นจากการสนับสนุนการทำสงครามของรัสเซีย โดยต้องไม่ให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจหรือทางทหารสำหรับการรุกรานของรัสเซีย และย้ำว่ารัฐบาลปักกิ่งควรใช้อิทธิพลที่มีนัยสำคัญต่อรัสเซียเพื่อส่งเสริมการแก้ปัญหาอย่างสันติในทันที
พร้อมทั้งส่งข้อความไปยังรัฐบาลเบลารุสว่าต้องหยุดการเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการรุกรานยูเครนของปูตินด้วยเช่นกัน
ภาพ: Photo by Halil Sagirkaya / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง: