อีมินโฮ ท็อปสตาร์ของเกาหลี 16 ปี และการก้าวสู่ Pachinko งานซีรีส์ทุนสร้างระดับบล็อกบัสเตอร์

อีมินโฮ นักแสดงแถวหน้าของเกาหลีกำลังพิสูจน์ตัวเองในระดับโลก กับผลงานซีรีส์ฟอร์มยักษ์เรื่องล่าสุด Pachinko ที่ผู้ชมกำลังจะได้ดูกันในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ทางแพลตฟอร์ม Apple TV+ โดยจะเป็นการร่วมงานกันของทีมผู้สร้างจากหลายประเทศ

แต่การที่อีมินโฮจะก้าวข้ามจากท็อปสตาร์ระดับประเทศไปสู่ระดับโลกคงไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาเพียงอย่างเดียว เพราะในด้านรูปลักษณ์และความสามารถ อีมินโฮก็เพียบพร้อมไม่แพ้ใคร

บทความนี้จะชวนมาวิเคราะห์ถึงจุดแข็งของนักแสดงคนนี้ว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา อีมินโฮมีจุดแข็งอะไรที่ส่งเสริมความสำเร็จ และยังทำให้เขาโดดเด่นเปล่งประกายท่ามกลางนักแสดงชั้นนำร่วมวงการอีกมากมาย

เส้นทางการทำงานตลอด 16 ปีของอีมินโฮ

สำหรับคนที่เป็นแฟนตัวจริงของอีมินโฮ คงพอจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาเริ่มจากการเป็นนักแสดงเด็กมาตั้งแต่ปี 2002 แล้ว และค่อยๆ เลื่อนขั้นมาสู่การเป็นนักแสดงด้วยบทสมทบในซีรีส์ Secret Campus (2006), I Am Sam (2007) ทั้งยังมีผลงานภาพยนตร์อย่าง Public Enemy Returns (2008) และ Our School’s E.T. (2008)

แต่บทที่ทั้งถูกที่ ถูกเวลา และถูกต้องที่สุด ก็ต้องยกให้ Boys Over Flowers (2009) ที่แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ก้าวขึ้นมารับบทนำ (เรื่องแรกคือซีรีส์ Mackerel Run ในปี 2007) แต่ก็นับว่าเป็นผลงานแจ้งเกิดที่สั่นสะเทือนวงการบันเทิงเกาหลีในเวลานั้น ด้วยความที่เป็นซีรีส์รีเมกจากไต้หวันที่ประสบความสำเร็จอย่าง F4 ทำให้เรตติ้งของซีรีส์พุ่งทะยานขึ้นไปกว่า 30% ในช่วงที่ออกอากาศ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ และทำให้ผู้คนยังมีภาพจำของคาแรกเตอร์หนุ่มผมหยิก กูจุนพโย มาจนถึงทุกวันนี้

ซึ่งบทบาทกูจุนพโยอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดภาพจำของอีมินโฮในผลงานซีรีส์ชิ้นถัดๆ มา ไม่ว่าจะเป็น Personal Taste (2010), City Hunter (2011), The Heirs (2013), The Legend of the Blue Sea (2016) และ The King: Eternal Monarch (2020) ที่แฟนซีรีส์เกาหลีมักจะแซวกันบ่อยๆ ว่าอีมินโฮไม่เคยรับบทเป็นคนยากจนเลยสักครั้ง เพราะในซีรีส์ทุกๆ เรื่องหลังจากนั้น เขามักจะมีรูปลักษณ์แบบคุณชายที่ดูดีอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

Boys Over Flowers (2009)

The Heirs (2013)

คาแรกเตอร์อีมินโฮในซีรีส์ ภายใต้ความรวย มีอะไรซ่อนอยู่

ถ้าไม่พูดถึงบทบาทเรียลๆ ในภาพยนตร์ ก็อาจพูดได้ว่าเป็นเรื่องจริงที่อีมินโฮไม่เคยต้องรับบทเป็นคนจนที่น่าสงสารเลยสักครั้ง แต่ภายใต้ลุคที่ดูดีมีฐานะ เมื่อลองสังเกตดูดีๆ ก็จะพบว่าแต่ละบทบาทมีมิติในตัวของมันเอง และมีรายละเอียดของคาแรกเตอร์ที่มีความแตกต่าง แม้จะฉาบหน้าด้วยลุคคุณชายที่ดูเหมือนจะซ้ำเดิมในทุกๆ เรื่องก็ตาม

กูจุนพโย จาก Boys Over Flowers และ คิมทัน จาก The Heirs ซึ่งสองตัวละครนี้มีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกัน คือเป็นเรื่องราวของลูกคุณหนูร่ำรวย พบรักกับหญิงสาวต่างชนชั้น โดยมีอุปสรรคที่ต้องฟันฝ่าระหว่างทางเพื่อให้ครอบครัวยอมรับ ซึ่งด้วยยุคสมัยในช่วงที่ซีรีส์ออกอากาศ โทนเรื่องแนวนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมและติดตลาดได้ง่าย และทำให้อีมินโฮโด่งดังสุดๆ จากบทบาทนี้

จอนจินโฮ จาก Personal Taste เรื่องราวชุลมุนวุ่นรักที่ชายหญิงได้เข้าไปอยู่ในบ้านเดียวกันด้วยสถานการณ์จำเป็นบางอย่าง แม้คาแรกเตอร์ของอีมินโฮในเรื่องจะยังคงภาพลักษณ์ผู้ชายดูดี ทำงานเก่ง แต่ครั้งนี้เขาเริ่มท้าทายตัวเองด้วยบทผู้ชายที่แกล้งๆ เป็นเกย์ (แม้ในเรื่องจะเป็นความเข้าใจผิดของนางเอกเพียงฝ่ายเดียวก็ตาม) ด้วยเรื่องราวที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แตกต่างจากงานแจ้งเกิดเรื่องก่อนหน้า และยังการร่วมงานกับมืออาชีพอย่าง ซนเยจิน ก็ทำให้ทักษะการแสดงของเขาพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นอย่างรวดเร็ว

Personal Taste (2010)

อียุนซอง จาก City Hunter อีมินโฮฉีกแนวมาสายดราม่าแอ็กชันเดือดๆ กับบทวิศวกรด้านไอทีจากสหรัฐอเมริกาและอดีตเจ้าหน้าที่ CIA ที่กลับมาเกาหลีเพื่อวางแผนแก้แค้นคนที่ฆ่าพ่อของเขา แต่เรื่องมันไม่ง่าย เพราะกลุ่มคนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้มีอำนาจในรัฐบาลเกาหลีทั้งหมด อียุนซองจึงต้องจึงแฝงตัวเข้าไปในทำเนียบ และหาสารพัดวิธีเพื่อแก้แค้นให้สำเร็จ

ฮอจุนแจ จาก The Legend of the Blue Sea คราวนี้ไม่ได้รวยตั้งแต่เกิด แต่รวยเพราะอาชีพนักต้มตุ๋น! ด้วยความแฟนตาซีของบทที่เป็นการพบรักกันระหว่างมนุษย์กับนางเงือก ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นการผสมผสานความดราม่าและคอเมดี้ออกมาได้อย่างกลมกล่อม และทำให้เห็นว่าอีมินโฮก็เล่นบทตลกๆ ได้เอาอยู่เหมือนกัน

อีกน จาก The King: Eternal Monarch ผลงานซีรีส์เรื่องล่าสุดของอีมินโฮที่หลายคนยังตราตรึงและจดจำได้ กับบทอีกน กษัตริย์ของจักรวรรดิเกาหลี ซีรีส์ที่เป็นการร่วมงานกันของ ผู้กำกับอีอึงบก และนักเขียนคิมอึนซุก ได้รับการจับตามองมากในช่วงเปิดตัว และอีมินโฮที่ถูกเลือกให้มารับบทนี้ก็ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง โดยเฉพาะลุคสูงศักดิ์แบบราชนิกูลที่คนดูคุ้นเคยมาจากเรื่องก่อนๆ ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังจัดเต็มแบบครบรส ทั้งดราม่า แฟนตาซี โรแมนติก และสืบสวนสอบสวน

The Legend of the Blue Sea (2016)

อีมินโฮ กับชีวิตส่วนตัวที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น

ขึ้นชื่อว่าเป็นท็อปสตาร์ คงไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้วที่จะได้เห็นมุมสบายๆ แบบไม่ปรุงแต่งออกสื่อ แต่เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา อีมินโฮได้เริ่มเปิด YouTube Channel ของตัวเองในชื่อ leeminho film ซึ่งเป็นการแชร์ชีวิตส่วนตัวให้แฟนๆ ได้เห็น โดยทุกคลิปที่เผยแพร่ก็เป็นตัวเขาเองที่ดูแลการผลิตแทบจะทุกขั้นตอน

อีมินโฮเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับช่องยูทูบของตัวเองเอาไว้ว่า “เหตุผลที่เปิดช่องยูทูบขึ้นมา เพราะผมอยากมีงานอดิเรกอะไรสักอย่างที่เชื่อมโยงทั้งงานและชีวิตประจำวันปกติเข้าไว้ด้วยกัน อีกอย่างคือผมเดาว่าหลายคนน่าจะเข้าใจว่าผมเป็นคนที่มีนิสัยจุกจิกและเย็นชา ซึ่งมันไม่จริงเลย”

ก้าวใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในซีรีส์บล็อกบัสเตอร์ Pachinko การออดิชันครั้งแรกในรอบ 13 ปี

เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เพราะผลงานเรื่องใหม่ของอีมินโฮที่เรากำลังจะได้ดูกันเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ทุนสร้างมหาศาล โดยนำโครงเรื่องมาจากหนังสือขายดีชื่อเดียวกันในลิสต์ของ The New York Times ปี 2017 อำนวยการสร้างและเขียนบทโดย ซู ฮิวจ์ ผู้เขียนบท The Terror และ The Killing ผู้กำกับโดย โคโกนาดะ และ จัสติน ชน ผู้กำกับเชื้อสายเกาหลี-อเมริกัน

สำหรับอีมินโฮ การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในซีรีส์เรื่องนี้ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา เพราะเขาต้องผ่านการออดิชันไม่ต่างจากนักแสดงคนอื่นๆ

“ผมไม่ได้ออดิชันมา 13 ปีแล้ว ทำให้ผมต้องเตรียมตัวเยอะมากเพื่อให้ได้บทนี้มา สิ่งที่ผมทำคือการพยายามนึกถึงตัวละครโกฮันซู ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในช่วงเวลานั้น อีกอย่างคือผมอยากจะสื่อถึงภาพลักษณ์ของผู้ชายในยุคสมัยนั้น เวลาเจอผู้หญิงที่เขารัก แต่ไม่รู้ว่าจะแสดงออกถึงความรักออกมาได้อย่างไร

“แต่ในอีกทางหนึ่ง ผมคิดว่าการออดิชันนักแสดงก็เป็นระบบที่สมเหตุสมผลดีนะครับ ผมชอบที่กระบวนการนี้ไม่ได้เป็นแค่การจับคู่กับภาพลักษณ์ของนักแสดงที่มีชื่อเสียงเพียงอย่างเดียว ซึ่งการออดิชันครั้งนี้มันก็เป็นสิ่งเตือนใจที่ทำให้ผมย้อนนึกไปถึงวันเก่าๆ สมัยที่เริ่มเป็นนักแสดง

“การที่เรามุ่งความสนใจไปที่บทเท่านั้นโดยไม่ต้องคิดถึงเรื่องชื่อเสียงหรือเรตติ้งที่ต้องแบกรับ โปรเจกต์นี้จึงเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในอาชีพนักแสดงของผมก็ว่าได้”

Pachinko เป็นซีรีส์ที่จะสะท้อนภาพประวัติศาสตร์ผ่านครอบครัวชาวเกาหลีที่อพยพจากเกาหลีไปญี่ปุ่น ก่อนจะย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อเมริกา ซึ่งแม้จะลำบากและหมดหวังแค่ไหน แต่สมาชิกทุกคนในครอบครัวต่างยึดเหนี่ยวซึ่งกันและกัน จนกลายเป็นเรื่องราวที่ไม่อาจลบเลือน ทั้งสงครามและสันติภาพ ความรักและการสูญเสีย ไปจนถึงชัยชนะและการแก้แค้น โดยจะออกอากาศครั้งแรก 3 ตอนรวด หลังจากนั้นจะออกอากาศต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ตอน รวมความยาว 8 ตอนจบ เริ่มวันศุกร์ที่ 25 มีนาคมนี้ ทางแพลตฟอร์ม Apple TV+ เท่านั้น

อ่านต่อ:

ตัวอย่างซีรีส์ Pachinko