นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญเชิงธุรกิจของสถานการณ์สงครามในยูเครน หลังบริษัทลักชัวรีเบอร์หนึ่งของโลกอย่าง LVMH ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดัง อาทิ Louis Vuitton, Dior และ Bvlgari ได้ประกาศว่าวันอาทิตย์นี้ (6 มีนาคม) ทางบริษัทได้ตัดสินใจจะปิดร้านทั้งหมด 124 สาขา แบบชั่วคราวที่ประเทศรัสเซีย
มากไปกว่านั้น ทางบริษัท LVMH ก็ยังประกาศอีกด้วยว่าแม้จะปิดร้านอย่างไม่มีกำหนด ณ เวลานี้ แต่ก็ยังจะจ่ายเงินเดือนพนักงานทั้งหมด 3,500 คนที่รัสเซียแบบเต็มจำนวน และทุกคนก็ยังจะได้สวัสดิการตามเดิม
การที่ LVMH ตัดสินใจที่จะปิดร้านทั้งหมดในรัสเซียก็ถือว่าเป็นผลของ Domino Effect ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 มีนาคม) หลัง Hermés เป็นแบรนด์ลักชัวรีเจ้าแรกที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าจะปิดร้าน ก่อนที่บริษัทและแบรนด์อื่นๆ จะตามมา ทั้ง Richemont บริษัทแม่ของ Cartier, Chanel และ Kering บริษัทแม่ของ Gucci และ Balenciaga
ทางนักวิเคราะห์การตลาด Luca Solca ของบริษัทรีเสิร์ชชื่อดัง Bernstein Research ได้เผยกับทาง BBC ว่า 2% ของรายได้ทั้งหมดจากยอดขายของบรรดาแบรนด์ลักชัวรีมาจากประเทศรัสเซีย ซึ่งนั่นอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่หลายแบรนด์ยังลังเลว่าจะทำอย่างไรดีท่ามกลางความกดดันช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่มีการเรียกร้องให้หยุดกิจการในรัสเซียทั้งหมดช่วงนี้ โดยในตอนแรกหลายแบรนด์ก็เลือกที่จะบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือชาวยูเครนมากกว่า แต่หลายคนก็มองว่าอาจไม่เพียงพอในการสร้างจุดยืนกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และแบรนด์ลักชัวรีก็ถือว่ามีอิทธิพลมหาศาลที่จะทำให้บริษัทในวงการอื่นๆ เลือกเดินตาม
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง: