TASTE: Cafe.ref คาเฟ่บางแสนจากคนรักเกาหลี ที่มองเทสต์โน้ตของน้ำหอม เป็นเรื่องเดียวกับความหอมจากกาแฟ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมา บางแสน กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัดเดินทางไปตลอด จนรู้ตัวอีกทีเราเห็นคนถ่ายรูปร้านอาหาร หรือคาเฟ่ต่างๆ ในบางแสนจนเต็มฟีดไปหมด

ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสถานการณ์โควิด ทำให้คนรักการท่องเที่ยวเดินทางในประเทศกันมากขึ้น ประกอบกับบางแสนก็มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะมากให้ตามไปอัปเดตกัน หรืออีกอย่างอาจเป็นเพราะ ‘โลเคชันที่ใกล้กรุงเทพฯ เมื่อคุณมาพักผ่อนจิบกาแฟ กินข้าวเรียบร้อย ก็รอดูวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลได้เลย’ อู๋-ธีรนัย สมรรถชัยศรี เจ้าของ Cafe.ref บอกเราแบบนั้น

Cafe.ref เป็นหนึ่งในไลฟ์สไตล์คาเฟ่ที่เปิดขึ้นช่วงกลางปี 2020 จาก อู๋-ธีรนัย สมรรถชัยศรี และ บิว-ชญาภา สุขสภา อดีตข้าราชการและนักเรียนทำขนม ที่การเกิดขึ้นของสถานการณ์โควิด ทำให้ตัดสินใจออกจากงาน และเริ่มเปิดร้านกาแฟที่บางแสน หนึ่งในความฝันที่อยากหาเวลาทำให้เป็นจริงมานานแล้ว

แบรนด์น้ำหอมที่ทำให้ได้ไปเกาหลีบ่อยๆ

ก่อนหน้านี้นอกจากงานประจำแล้ว ทั้งคู่ทำแบรนด์น้ำหอมไซส์มินิที่ชื่อว่า day.off.studio จากความชอบในศาสตร์ของการเบลนด์กลิ่นหอม บวกกับความที่ชอบไปเกาหลีมากๆ เคยไปเทกคลาสเรียนเบลนด์น้ำหอมที่เกาหลี จึงคิดว่าหากสามารถหาอะไรที่ผูกกับที่นี่ได้ ก็จะทำให้ทั้งคู่ได้มาเกาหลีบ่อยๆ ได้เที่ยว ได้งาน และมีรายได้ด้วย

Taste Note ของน้ำหอม สู่ความหอมของกาแฟ

จากที่เป็นคนไม่เคยกินกาแฟดำเลย พอได้ลองกาแฟดริปจากเมล็ดกาแฟสเปเชียลตีต่างๆ ทำให้ทั้งคู่เริ่มหลงใหลในกาแฟมากขึ้น เพราะใช้ความรู้และความหลงใหลในเรื่องของ Taste Note เช่นเดียวกับน้ำหอม จึงเริ่มศึกษา ซื้ออุปกรณ์กาแฟต่างๆ เก็บไว้ กระทั่งเจอเวลาที่เหมาะที่จะเปิดร้านกาแฟขึ้นมา

การทำแบรนด์น้ำหอมเป็นกิจกรรมที่ทำให้ทั้งคู่หาเรื่องไปเกาหลีได้บ่อยๆ แต่เมื่อทำร้านกาแฟแล้ว สถานการณ์ที่ทำให้เดินทางไม่ได้ กลับกลายมาเป็นคอนเซปต์ที่อยากดึงบรรยากาศของคาเฟ่ในกรุงโซลมาไว้ที่นี่ เพื่อให้ทั้งตัวเองและลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่พอจะแทนที่การท่องเที่ยวให้หายคิดถึงได้บ้าง

“หนึ่งแรงบันดาลใจของการทำคาเฟ่นี้คือตอนไปเที่ยวที่โซล แล้วชอบบรรยากาศของคาเฟ่ที่นั่น คาเฟ่ที่ตกแต่งสวย มีดีเจเปิดเพลง ให้คนสามารถใช้เวลาที่นี่ได้”

นั่นทำให้การตกแต่งของที่นี่เบสด้วยผนังสีขาว ไว้โชว์เคสเฟอร์นิเจอร์ไม้ โปสเตอร์ดีไซน์สวย และของตกแต่งที่หลายอย่างก็ซื้อมาจากเกาหลี ให้ความเป็นซิตี้คาเฟ่ ที่แชร์สไตล์และความสนใจที่ตรงกันระหว่างเจ้าของร้านและลูกค้า ทั้งยังมีอีเวนต์ที่ชวนดีเจแผ่นเสียงมาเปิดเพลงอยู่เรื่อยๆ เสริมสร้างไดนามิกให้ที่นี่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

“เราอยากให้คนที่มาที่ร้านเปิดประตูมาแล้วไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ไทยเลย เหมือนได้ไปเที่ยว แต่ก็ไม่ใช่ทำร้านสวยไว้ให้ถ่ายรูปอย่างเดียว พอลองชิมกาแฟ กาแฟก็ต้องดีด้วยนะ” อู๋เล่าว่าตอนแรกๆ เขาใช้เมล็ดกาแฟจากเกาหลีด้วย แต่พอต้องขนส่งนาน ระยะเวลาทำให้คาแรกเตอร์ของกาแฟดรอปลง เขาเลยหันมาเน้นเมล็ดไทย ซึ่งปัจจุบันใช้เมล็ดจากโรงคั่ว Sauce เป็นหลัก นอกเหนือจากสโลว์บาร์ หรือเมนูคลาสสิกต่างๆ แล้ว ก็ยังมีซิกเนเจอร์ต่างๆ ด้วยเช่นกัน

Ref Cold Brew Signature Mocktail แก้วนี้เลือกใช้กาแฟโคลด์บรูว์ที่มีโน้ตของผลไม้ เชกกับไซรัปเสิร์ฟเป็นม็อกเทล เหมาะสำหรับคนที่มองหาอะไรเบาๆ สดชื่นๆ หรือ Tiramisu Dirty ที่ร้านใช้ครีมทีรามิสุท็อปลงบนกาแฟ ส่วนใครที่ชอบความหอมมันของนม CC Cream คือแก้วที่เล่นเลเยอร์ระหว่างนม ช็อตกาแฟ และครีมด้านบน

และในฐานะที่บิวจบทำขนมมาโดยตรง เธอจึงมาดูแลทำขนมให้ทางร้าน ซึ่งไม่ได้มีเมนูตายตัว จะเปลี่ยนไปรายวันอย่าง Dark Chocolate Cake, Chocolate Mousse Oreo Cheesecake หรือ Biscoff Cheesecake อัปเดตกับทางร้านก่อนไปได้เลย

จริงอย่างที่อู๋เล่า ที่นี่ให้บรรยากาศเหมือนได้ไปเที่ยว แถมเข้ามานอกจากกาแฟ ขนมแล้ว ก็ยังมีมุมเล็กๆ ให้ซื้อน้ำหอมจาก day.off.studio กลับบ้านได้ แถมถ้าโชคดีคุณจะเจอวันที่มีไลฟ์ดีเจ แต่หากไม่เจอเอ็นจอยกับบรรยากาศไปก่อน แล้วแวะดูพระอาทิตย์ตกริมทะเลก่อนกลับบ้าน เท่านี้ก็ฟังดูเป็นวันหยุดที่ดีเหมือนกันนะ