ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวสหรัฐฯ เตือนว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย อาจสั่งให้ทหารบุกโจมตียูเครนภายในไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ในขณะที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในยุโรปยังคงพยายามเสนอทางออกจากวิกฤตความขัดแย้งด้วยวิธีทางการทูต
“รัสเซียอาจใช้มาตรการทางทหารกับยูเครน ซึ่งอาจจะเป็นวันใดวันหนึ่ง หรืออาจจะ 2-3 สัปดาห์นับจากนี้ หรือรัสเซียอาจเลือกใช้หนทางการทูตแทน” เจค ซัลลิแวน ให้สัมภาษณ์ในรายการ Fox News Sunday ที่ออกอากาศเมื่อวานนี้ (6 กุมภาพันธ์)
การให้ความเห็นของที่ปรึกษาความมั่นคงของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ 2 คนของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียวางกำลัง 70% ของศักยภาพการสู้รบ ซึ่งเชื่อว่าจำเป็นสำหรับการบุกยูเครนได้เต็มรูปแบบ
ถึงแม้รัสเซียได้ส่งทหารไปประจำการบริเวณชายแดนติดกับยูเครนกว่า 1 แสนนาย แต่มอสโกยืนกรานว่าไม่มีแผนบุกยูเครน ทว่าก็อาจใช้มาตรการทางทหาร หากข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของรัสเซียไม่ได้รับการตอบสนอง โดยรัสเซียต้องการให้องค์การ NATO ยุติการสนับสนุนยูเครนและไม่รับยูเครนเป็นสมาชิกใหม่ เนื่องจากรัสเซียมองยูเครนเป็นรัฐกันชนกับ NATO มาตลอด
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาสหรัฐฯ และพันธมิตร NATO ไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของรัสเซีย ซึ่งทำให้สถานการณ์คุกรุ่นและเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้าทางทหารขึ้นทุกเมื่อ
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้หารือกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ ก่อนที่มาครงจะเดินทางเยือนมอสโกในวันจันทร์ (7 กุมภาพันธ์) เพื่อช่วยไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างรัสเซียกับยูเครน
ซัลลิแวนกล่าวว่า หากปูตินไม่เลือกวิธีทางการทูต ก็มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียอาจใช้มาตรการทางทหาร ซึ่งรวมถึงการผนวกดินแดนดอนบาสของยูเครน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประชากรพูดภาษารัสเซียและมีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลยูเครนมาตั้งแต่ปี 2014
นอกจากนี้ซัลลิแวนระบุว่า รัสเซียอาจเลือกใช้วิธีโจมตีทางไซเบอร์หรือบุกยูเครนเต็มรูปแบบ
ภาพ: Erik Romanenko / TASS via Getty Images
อ้างอิง: