วันนี้ (19 มกราคม) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ณ ห้องจัดประชุมสัมมนา B 1-2 ชั้น B 1 อาคารรัฐสภา
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเพื่อไทย และ ส.ส. จากพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมถึงผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมในพิธีและร่วมแสดงความยินดี โดยมี พรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรมายังบริเวณพิธี และอ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร และเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไปวางที่โต๊ะหมู่หน้าพระบรมฉายาลักษณ์
จากนั้น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และได้ร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
นพ.ชลน่านได้กล่าวภายภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันสูงยิ่งสำหรับตน
สำหรับผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรถือเป็นบทบาทหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และหน้าที่สำคัญที่สุดในการทำหน้าที่ในการตรวจสอบถ่วงดุลการการทำงานของคณะรัฐมนตรีและรัฐบาล หน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติที่จะร่วมกันทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองและพี่น้องประชาชนให้ได้รับประโยชน์สูงสุดในการดำรงชีวิต
สำหรับภารกิจแรกที่ตนจะดำเนินการในสมัยประชุมนี้ซึ่งเป็นสมัยประชุมสามัญ ประจำปีที่สาม โดยเรื่องสำคัญของฝ่ายนิติบัญญัติคือ การตรวจสอบการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาต่อพี่น้องประชาชนขณะนี้คือ ความเป็นอยู่เรื่องปากท้อง เรื่องปัญหาข้าวของที่แพงขึ้น ลูกหลานมองนาคตไม่เห็น ดังนั้นในสภาจึงจำเป็นต้องแสวงหาข้อเท็จจริงในการเสนอแนะปัญหาให้กับรัฐบาลนำไปแก้ไข โดยพรรคฝ่ายค้านจะมีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152
โดยฝ่ายค้านจะมีการประชุมสรุปประเด็นเนื้อหาสาระว่าจะสอบถามข้อเท็จจริงและปัญหาข้อเสนอแนะจะเป็นอย่างไร โดยฝ่ายค้านมีมติแล้วว่าจะร่วมกันเสนอเป็นญัตติเดียวที่จะยื่นในวันที่ 21 มกราคมนี้ และคาดว่าจะสามารถเปิดอภิปรายได้กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ นอกเหนือจากความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยต้องการใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎรในการตั้งกระทู้ถามสด โดยเฉพาะเรื่อง African Swine Fever (ASF) หรือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และข้าวของที่แพง ว่ามีที่มาที่ไปและจะเดินหน้าแก้ไขอย่างไร
และจากนั้นจะเดินหน้าแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถพิจารณาได้ทันสมัยประชุมนี้ และกฎหมายที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญในช่วงนี้คือพระราชกำหนด 2 ฉบับ ที่รัฐบาลได้ประกาศไปแล้วและจะกลับมาขอความอนุมัติจากสภา คือพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ภาษีศุลกากร และ พ.ร.ก.ว่าด้วยสารต้องห้ามทางการกีฬา ซึ่งองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA) ได้ออกข้อกำหนดใหม่ในแต่ละปี และประเทศไทยเป็นสมาชิกใน WADA ดังนั้นเมื่อมีการออกกฎกติกาใหม่ ประเทศสมาชิกจำเป็นที่จะต้องอนุมัติกฎหมายตาม แต่ประเทศไทยถือว่าปล่อยปละละเลยในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ไม่มีการดำเนินการใดๆ ซึ่งทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ประชาชนจะมารู้ตัวในเรื่องนี้เวลาที่นักกีฬาประสบความสำเร็จ เช่น การแข่งขันแบดมินตันคู่ผสมที่ไม่สามารถใช้ธงชาติไทยได้ เป็นต้น
จากนี้จะร่วมกับประชาชนในการแก้ไขมาตรา 272 ในการแก้ไขไม่ให้สมาชิกวุฒิสภามีอำนาจหน้าที่ในการเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะสนับสนุน และสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็จะเป็นผู้เสนอกฎหมายเอง และหากรัฐบาลยังทำหน้าที่อยู่ ยืนยันการอภิปรายไม่ไว้ใจตามมาตรา 151 จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน
สำหรับกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าองค์ประชุมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้อาจไม่ครบ เนื่องจาก ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลกักตัวกว่า 20 คน นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราคำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก หากกฎหมายที่เข้าสู่การประชุมในวันนี้ หากเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นประโยชน์เราก็จะไม่ยอม แต่หากกฎหมายมีความจำเป็นเราก็จะอยู่เป็นองค์ประชุม โดยจะคำนึงถึงสาระของตัวกฎหมายเป็นหลัก