ด้วยสถานการณ์โควิดที่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงปี 2020 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน และทำให้เกิดราคาผันผวนเป็นวงกว้าง จากที่เคยทุลักทุเลอยู่แล้วก็เด่นชัดขึ้นมาจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ แม้รัฐบาล Trump จะพยายามแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการเข้ามาคุมการผลิต และจำกัดจำนวนการซื้อก็ตาม
อย่างไรก็ดี ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเลือกตั้งประธานาธิบดี Joe Biden ได้ชูประเด็นการแก้ปัญหาอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ โดยเขามองว่าราคาเนื้อสัตว์และสัตว์ปีกในขณะนี้ นับเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ต้นทุนอาหารครัวเรือนสูงขึ้น ซึ่งหลังจากรับตำแหน่งประธานาธิบดีรัฐบาลของ Biden ได้กำหนดแผน ‘4 กลยุทธ์หลัก’ (Four Core Strategies) มุ่งเน้นไปที่อุปสงค์-อุปทาน รวมถึงการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการ หรือผู้แปรรูปรายใหญ่ รายย่อย ที่จะครอบคลุมไปถึงเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์
ทำเนียบขาวเผยว่า ทางรัฐบาลจะทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้ดีขึ้น และผู้บริโภคเองมีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นในราคาเอื้อมถึง ซึ่งที่มาของเงินจำนวนนี้ เป็นงบประมาณที่รัฐบาลเตรียมไว้ในหมวด American Rescue Plan จึงนำออกมาแบ่งใช้บรรเทาทุกข์ประชาชนที่ประสบปัญหา หรือได้รับผลกระทบในช่วงโควิดในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เงินช่วยเหลือสำหรับผู้ที่อยากเริ่มธุรกิจใหม่ เงินกู้เพิ่มเติมสำหรับผู้ผลิตและผู้ประกอบการธุรกิจ เงินสนับสนุนลูกจ้างและพนักงานผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมงานมาอย่างดี เงินช่วยเหลือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี หรือเงินช่วยเหลือโรงงานแปรรูปขนาดเล็กเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าง่ายขึ้น เป็นต้น
นอกจากราคาแล้ว ทาง United States Department of Agriculture หรือ USDA ยังมีแผนปรับปรุงป้ายกำกับบรรจุภัณฑ์ โดยเพิ่มป้ายกำกับ ‘Product of USA’ ให้กับเนื้อสัตว์ที่ผ่านการแปรรูป หรือหั่นบรรจุในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
อ้างอิง: