ซีอีโอ Pfizer เผย วัคซีนโควิดเข็ม 4 อาจจำเป็นต้องฉีดเร็วขึ้นกว่าที่คาดไว้ เพราะโอไมครอน

วานนี้ (8 ธันวาคม) อัลเบิร์ต บัวร์ลา ซีอีโอของ Pfizer เผยว่า ผู้คนอาจจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน Pfizer เข็ม 4 เร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธ์ุโอไมครอน โดยก่อนหน้านี้บัวร์ลาคาดการณ์ว่าควรเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 4 หลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว 12 เดือน แต่เนื่องจากเรายังมีข้อมูลที่จำกัดเกี่ยวกับสายพันธ์ุนี้ อาจมีความจำเป็นต้องฉีดเข็ม 4 เร็วขึ้นกว่าเดิม

Pfizer-BioNTech เผยผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่า วัคซีนเข็ม 3 มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสามารถรับมือกับเชื้อโอไมครอนได้ ขณะที่วัคซีน Pfizer เพียง 2 เข็ม มีระดับภูมิคุ้มกันโควิดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่อย่างไรก็ตาม วัคซีน 2 เข็มยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยยังคงมีแนวโน้มที่จะสามารถป้องกันการมีอาการรุนแรงหลังติดเชื้อโอไมครอนได้

ซีอีโอของ Pfizer ระบุว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ได้มากที่สุด เพื่อรับมือกับเชื้อกลายพันธุ์ในช่วงฤดูหนาวนี้ โดยเชื่อว่าวัคซีนเข็ม 3 จะยังมีประสิทธิภาพสูงมากพอในการรับมือเชื้อโอไมครอน ขณะที่ยาเม็ดรักษาโควิดอย่าง Paxlovid ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการช่วยป้องกันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและช่วยรับมือโควิดช่วงฤดูหนาวนี้

ทาง Pfizer ได้ยื่นเรื่องขอให้คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) อนุมัติการใช้ยาเม็ดนี้เป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว โดยทางการสหรัฐฯ สั่งซื้อยาเม็ดนี้จำนวน 10 ล้านคอร์ส โดยจะเริ่มขนส่งได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งบัวร์ลาแสดงความมั่นใจว่ายาเม็ด Paxlovid จะสามารถรับมือเชื้อโอไมครอนได้ เนื่องจากตัวยามุ่งเป้าไปที่ส่วนอื่นๆ ของเชื้อไวรัส ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้สำหรับการจำลองแบบ ไม่ไวต่อการกลายพันธุ์ ขณะที่วัคซีนโควิดจะมุ่งเป้าไปยังโปรตีนขัดขวางที่ไวรัสใช้ในการบุกรุกเซลล์ของมนุษย์ ซึ่งโปรตีนนี้กลายพันธุ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดช่วงการแพร่ระบาด

ทางทีมผู้ผลิตและพัฒนาวัคซีนของ Pfizer คาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตวัคซีนที่ใช้รับมือกับเชื้อโอไมครอนได้โดยเฉพาะภายในเดือนมีนาคม 2022 หากมีความจำเป็นต้องใช้ โดยเบื้องต้นทางทีมต้องศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนที่มีอยู่ในขณะนี้ก่อนว่าสามารถรับมือกับเชื้อโอไมครอนได้มากน้อยเพียงใด

บทความที่เกี่ยวข้อง:

ภาพ: Tom Brenner / File Photo / Reuters

อ้างอิง: