×

Grain Whisky คืออะไร Single Malt Whisky คืออะไร แล้ว Blended Whiskey ล่ะ เขาเบลนด์กันอย่างไร?

20.12.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • การจะเบลนด์วิสกี้ออกมาให้สมบูรณ์ได้นั้น ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะและศิลปะขั้นสูง โดยในวิสกี้หนึ่งเบลนด์อาจจะมีวิสกี้อยู่ด้วยกันหลายตัว และบางเบลนด์อาจมีมากถึง 50 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีมาสเตอร์เบลนเดอร์ที่คอยรังสรรค์ และดูแลในเรื่องของการควบคุมคุณภาพ และความคงเส้นคงวาของรสชาติ

สุภาพบุรุษนักดื่มหน้าใหม่หลายคนที่เพิ่งเริ่มหัดดื่ม มักจะมีความสงสัยและสับสนเมื่อได้ยินเกี่ยวกับประเภทของวิสกี้ชนิดต่างๆ ซึ่งอยู่หลากหลาย แต่ในบทความนี้เราจะขอไขข้อข้องใจเกี่ยวกับเรื่องของ เบลนด์วิสกี้ ซึ่งเป็นวิสกี้ที่มีการบริโภคกันอย่างแพร่หลาย ว่าหมายถึงอะไร และมีความแตกต่างจากจากวิสกี้ชนิดอื่นๆ อย่างไร รวมถึงหลักสำคัญในการเบลนด์วิสกี้ ให้มีรสชาติที่นุ่มละมุน จนเป็นวิสกี้คุณภาพมีรสชาติถูกใจนักดื่มไปทั่วโลก แต่ก่อนที่จะไปขั้นนั้นเราขอให้คุณจดจำความหมายของวิสกี้ชนิดต่างๆ เหล่านี้เอาไว้ให้ดีเสียก่อน   

 

 

1. Grain Whisky คือวิสกี้ที่ผลิตจากธัญพืช ไม่ว่าจะเป็นข้าวบาร์เลย์ ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ฯลฯ ทุกวันนี้เกรน วิสกี้ หรือวิสกี้จากธัญพืชส่วนใหญ่ในโลกนั้นผลิตจากข้าวสาลีและข้าวไรย์

 

2. Malt Whisky มอลต์ วิสกี้ จะต้องผลิตจากข้าวบาร์เลย์งอก (malted barley) เท่านั้น ในอดีตกระบวนการทำมอลต์ค่อนข้างยุ่งยาก เพราะต้องอุทิศแรงงานและเวลาค่อนข้างสูง แม้เทคโนโลยีในปัจจุบันจะช่วยให้ง่ายขึ้น แต่โรงกลั่นวิสกี้ที่อนุรักษ์วิธีดั้งเดิมแบบคราฟต์ย่อมได้รับการยกย่องเสมอ มอลต์ วิสกี้ จะต้องผ่านการต้มกลั่นอย่างน้อย 2 ครั้ง (บ้างก็ 3 แต่เป็นส่วนน้อย) หลังจากนั้นจึงนำสปิริตที่ได้มาบ่มในถังไม้โอ๊กไม่ต่ำกว่า 3 ปี แต่นักดื่มส่วนใหญ่มักคาดหวังว่าจะได้ดื่มอะไรที่บ่มนานกว่านั้น โดยแหล่งผลิตมอลต์ วิสกี้ ที่โดดเด่นของโลกอยู่ที่สกอตแลนด์

 

3. Single Malt Whisky หมายถึง มอลต์ วิสกี้ ที่ใช้เบลนด์จะต้องเป็นมอลต์ วิสกี้ ที่มาจากโรงกลั่นเดียว

 

(อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของวิสกี้ได้ที่ : ดื่มวิสกี้ผสมโค้กและโซดา ถูกไหม? ท่องไปในยุทธจักรของนักดื่ม เปิดคัมภีร์วิสกี้ 101 ที่ครบเครื่องที่สุด)

 

ทั้งนี้วิสกี้ในแต่ละตัว จากวิสกี้แต่ละชนิดข้างต้นนั้น ก็จะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไปตามแต่เทคนิคกรรมวิธีของแต่ละโรงกลั่น รวมถึงระยะเวลาในการบ่ม (ทั้งสภาพแวดล้อมของแต่ละแหล่งผลิตที่แตกต่างกันก็ส่งผลต่อรสชาติด้วย) ซึ่งก็จะทำให้วิสกี้แต่ละตัวนั้นมีจุดเด่นของทั้งกลิ่นและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป นั่นเองจึงเป็นที่มาของการนำเอาวิสกี้มาเบนลด์กันเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดอันเป็นที่มาของ เบลนด์ วิสกี้ (Blended Whisky) ซึ่งเป็นวิสกี้ที่แพร่หลายที่สุดในโลก ซึ่งผสมทั้งมอลต์ และเกรน วิสกี้ เข้าไว้ด้วยกัน

 

การเบลนด์วิสกี้อันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์

เมื่อไม่นานมานี้ทาง Chivas Regal ผู้ผลิตสกอตช์วิสกี้ชั้นนำของโลกได้จัดงาน Chivas The Blend เผยกรรมวิธีการเบลนด์วิสกี้อันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ โดยให้ผู้เข้าร่วมเวิร์กช็อป ได้ทดลองเบลนด์วิสกี้ด้วยตัวเอง และต่อไปนี้คือการสรุปความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเบลนด์วิสกี้ ซึ่งนักดื่มน่าจะทำความเข้าใจและศึกษากันเอาไว้สักนิด

 

 

1. มอลต์วิสกี้จะให้บุคลิกของรสชาติที่แตกต่าง เกรนวิสกี้จะให้ความสมดุล การเบลนด์สกอตช์วิสกี้ คือการนำวิสกี้จากหลายๆ ที่มาผสมผสานกัน โดยมอลต์วิสกี้จะให้บุคลิกรสชาติที่แตกต่าง ส่วนเกรนวิสกี้ที่ผลิตจากธัญพืชต่างๆ จะให้ความสมดุล ได้รสชาติที่ดี นุ่มและเบาบาง

 

 

2. การเบลนด์ วิสกี้ต้องใช้ทักษะและศิลปะขั้นสูง ซึ่งไม่มีหลักการตายตัว แต่โดยพื้นฐานแล้วจะต้องคำนึงถึงคาแรกเตอร์ของวิสกี้ โดยในงาน Chivas The Blend ครั้งนี้ทางชีวาสได้มีการนำซิงเกิลมอลต์ 5 ชนิดจาก 5 ภูมิภาคของประเทศสกอตแลนด์ มาให้ผู้ร่วมงานได้ผสมผสานรังสรรค์ให้ได้วิสกี้ที่สมบูรณ์แบบ โดยวิสกี้แต่ละชนิดที่นำมาให้ทดลองนั้นมีคาเแรกเตอร์หลักที่โดดเด่น แตกต่างกันออกไป 5 ประการดังนี้

 

  1. Smoky วิสกี้ที่โดดเด่นด้วยกลิ่นไม้และถ่าน
  2. Creamy วิสกี้ที่โดดเด่นด้วยรสสัมผัสครีมมี่
  3. Smooth & Floral โดดเด่นเรื่องความนุ่มและกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้
  4. Fruity มีความหอมหวานคล้ายผลไม้
  5. Citrusy มีกลิ่นหอมคล้ายพืชตระกูลซิตรัสที่โดดเด่น

 

 

3. มาสเตอร์เบลนเดอร์ผู้ทรงเกียรติในโลกของวิสกี้ ในวิสกี้หนึ่งเบลนด์อาจจะมีวิสกี้อยู่หลายตัว และบางเบลนด์อาจมีมากถึง 50 ตัวเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นเรื่องซับซ้อนและละเอียดอ่อน และการจะเบลนด์วิสกี้ออกมาให้สมบูรณ์ได้นั้นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะและศิลปะขั้นสูง แต่ละแบรนด์จึงต้องมีมาสเตอร์เบลนเดอร์ที่คอยสร้างสรรค์และดูแลในเรื่องของการควบคุมคุณภาพและความคงเส้นคงวาของรสชาติ ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญและทรงเกียรติมาก

 

Photo: Courtesy of Chivas Regal, moomsabuy/shutterstock

FYI

ว่าด้วยการผลิตวิสกี้

  • การผลิตวิสกี้นั้นประกอบไปด้วย 3 วัตถุดิบหลัก ได้แก่ ข้าวบาร์เลย์ น้ำธรรมชาติ และยีสต์
  • ทางชีวาสฯ ใช้ข้าวบาร์เลย์นำมาบดและสีจนได้เป็นมอลต์ ถัดมาจึงนำมอลต์มาผสมกับน้ำ เติมยีสต์เข้าไปเพื่อทำการหมัก หลังจากผ่านไปสองวันยีสต์จะเปลี่ยนเป็นวอช (Wash) หรือของเหลวที่มีลักษณะคล้ายเบียร์
  • ขั้นตอนต่อไปนำมากลั่นในหม้อทองแดง ซึ่งรูปร่างของหม้อกลั่นจะมีผลต่อรสชาติ เพราะหม้อกลั่นจะมีฤทธิ์ในการดูดซับสิ่งปนเปื้อนที่ไม่ต้องการออกไป สิ่งที่ออกมาจากหม้อกลั่นก็จะเป็นเหมือนน้ำใสๆ เรียกว่า White Spirits
  • ส่วนขั้นตอนสุดท้ายคือการนำไปบ่มในถังไม้โอ๊ก วิสกี้จะทำหน้าที่ดูดซึมซับสี คาแรกเตอร์ รวมถึงรสชาติออกจากไม้โอ๊กจนได้วิสกี้ที่ได้คุณภาพในที่สุด ซึ่งแต่ละถังของวิสกี้จะให้รสชาติที่แตกต่างกันออกไป
  • สกอตช์วิสกี้จะต้องบ่มไว้ไม่ต่ำกว่า 3 ปี โดยตั้งแต่เริ่มกระบวนการจนจบทุกขั้นตอนการผลิตจะทำที่ประเทศสกอตแลนด์เท่านั้น
  • เบลนด์ มอลต์ วิสกี้ (Blended Malt Whisky) คือวิสกี้ที่นำมอลต์ วิสกี้ จากโรงกลั่นหลายๆ แห่งมาเบลนด์รวมกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเป็นมอลต์ วิสกี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น วิสกี้แบรนด์ที่ข้างขวดเขียนว่า Pure Malt, Malt หรือ Vatted Malt ก็หมายความว่าเป็นเบลนด์ มอลต์ วิสกี้ นั่นเอง
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X