หุ้นของแอปพลิเคชันเทรดสินทรัพย์ ‘Robinhood’ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ปรับตัวลดลงกว่า 8% ในคืนที่ผ่านมา (26 ตุลาคม) หลังทำรายได้ ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในไตรมาสล่าสุด
ทาง Robinhood เผยว่า รายได้จากการเทรดคริปโตเคอร์ซีภายในแพลตฟอร์ม ลดลงจาก 233 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 เหลือเพียง 51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.5 พันล้านบาท ในไตรมาส 3 รวมถึงการลดลงของจำนวนผู้ใช้งานใหม่ที่เพิ่มขึ้นน้อยลงเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนแนวโน้มการเทรดคริปโตเคอร์ซีจะไม่ได้หายไปในทีเดียว ทั้งยังมีข้อบ่งชี้ให้เห็นถึงการเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการสูง เนื่องจากทาง Robinhood เผยว่า ในขณะนี้ มีผู้ใช้งานรอการอนุมัติให้สามารถใช้งานบัญชีคริปโตเคอร์เรนซีกว่า 1 ล้านราย
วาลาด ทีเนฟ ซีอีโอของ Robinhood ได้เผยถึงกลยุทธ์ที่กำลังดำเนินการ และรอความชัดเจนของฝ่ายกำกับดูแลในเงื่อนไขต่างๆ เพื่อการเพิ่มรายได้ในไตรมาสข้างหน้า โดยการเพิ่มชนิดคริปโตเคอร์เรนซี เข้าไปในผลิตภัณฑ์ ของแพลตฟอร์ม จากเดิมที่มีอยู่เพียงแค่ 7 ชนิด (Bitcoin, Bitcoin Cash, Bitcoin SV, Dogecoin, ETH, Litecoin)
นอกจากนี้ยังเพิ่มบริการที่เรียกว่า ‘Recurring Crypto Investment’ โดยให้ผู้ใช้สามารถตั้งเวลาในการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีล่วงหน้าโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม (Free Zero Trade Commission) ไปเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวที่เข้ามาในช่วงนี้ว่า Robinhood กำลังจะลิสต์เหรียญ Shiba Inu เข้าเทรดเลยทำให้ระดับราคา Shina ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูง แต่ทางวาลาดก็ไม่ได้เอ่ยถึงประเด็นดังกล่าว ในการรายงานผลประกอบการที่ผ่านมาแต่อย่างใด
อ้างอิง: