วันนี้ (27 กันยายน) จากสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องในจังหวัดกำแพงเพชร ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ของตำบลนาบ่อคำ ได้แก่ หมู่ 3, 5 ,15,17, 24 ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 300 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำมีความสูงประมาณ 1 เมตร เจ้าหน้าที่ฝ่ายการปกครองและองค์การบริหารส่วนตำบลนาบ่อคำ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชร พร้อมด้วยผู้นำหมู่บ้าน เร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุออกจากพื้นที่อันตรายด้วยความยากลำบาก เนื่องจากกระแสน้ำไหลเร็วและมีความแรง จึงต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง
ฤทธิรงค์ เปรมศรี นายก อบต.นาบ่อคำ เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ได้มีการประสานให้ผู้นำชุมชนประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้มีการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก โดยการเก็บของขึ้นที่สูง แต่ประชาชนบางส่วนที่อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียวจึงไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และในขณะนี้บางหมู่บ้านไม่สามารถเดินทางเข้าออกจากหมู่บ้านได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรงมาก ทางองค์การบริหารส่วนตำบลนาบ่อคำจึงได้มีการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่สมาคมหน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชรให้มีการเข้าช่วยเหลือขนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าปริมาณน้ำจะสูงขึ้นจนอาจเกิดอันตรายได้ โดยได้มีการนำรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าไปในพื้นที่ พร้อมกับขนย้ายประชาชนที่ต้องการอพยพออกมาจากบริเวณดังกล่าวโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วย
พัด บงชมพู อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.3 บ้านแม่นารี ตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมืองจังหวัดกำแพงเพชร หนึ่งในผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านเปิดเผยว่า ตนเองได้มีการเตรียมเก็บข้าวของบางส่วนขึ้นที่สูงแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าน้ำจะไหลเชี่ยวขนาดนี้ จนทำให้บ้านบริเวณชั้นล่างไม่สามารถอยู่อาศัยได้ และกำลังจะท่วมบริเวณชั้นสอง จึงได้ขอความช่วยเหลือให้ทางกู้ภัยพาตนออกมาจากบ้านตนเองแล้วไปอาศัยอยู่ที่บ้านของลูกสาวก่อนเพื่อความปลอดภัย รอจนกว่าระดับน้ำจะลดลงแล้วจึงจะกลับเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง สำหรับประชาชนในพื้นที่ที่อพยพออกมาจากที่อยู่อาศัย ทางองค์การบริหารส่วนตำบลนาบ่อคำได้จัดศูนย์ไว้ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลนาบอกคำก่อนเป็นการชั่วคราว
ด้าน ประสิทธิ์ อินทโชติ นายอำเภอเมืองกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ทางจังหวัดกำแพงเพชรได้มีการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และได้มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อทำการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในเบื้องต้นเป็นการช่วยเหลือประชาชนออกมาจากบริเวณที่เป็นอันตรายก่อน ส่วนในเรื่องของความเสียหายจะได้มีการสำรวจความเสียหายหลังจากที่น้ำลดแล้ว ทั้งงบประมาณในส่วนของการซ่อมแซมบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตร และจะได้มีการจัดสรรงบประมาณในการชดเชยความเสียหายให้กับประชาชนต่อไป