เมื่อวานนี้ (22 กันยายน) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้าน ราว 8,000 รายในเมืองทานตะลาน (Thantlang) รัฐชิน ประเทศเมียนมา อพยพหนีตาย บางส่วนข้ามพรมแดนไปยังประเทศอินเดีย หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มกองกำลังต่อต้านการรัฐประหาร บ้านเรือนกว่า 20 หลังมีเพลิงลุกไหม้
ซาไล เลียน โฆษกประจำองค์กร Thantlang Placement Affairs Committee ที่ดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้พลัดถิ่น อ้างว่ากองทัพเมียนมาได้เปิดฉากยิงไปยังบ้านหลังต่างๆ ในหมู่บ้าน เป็นเหตุให้ชาวบ้านเริ่มทำการอพยพ
ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเมียนมาอย่าง Myanmar Now โดยเผยว่า ชาวบ้านเกือบ 100% ในหมู่บ้านแห่งนั้นได้ทำการอพยพแล้ว เหลือเพียงแต่ลูกจ้างของรัฐบาลที่ไม่ได้เข้าร่วมอารยะขัดขืนกับกองกำลังทหารที่ยังคงอยู่ในหมู่บ้าน
นับตั้งแต่กองทัพเมียนมา ภายใต้การนำของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สถานการณ์การความรุนแรงและเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เดินหน้าปราบปรามกลุ่มผู้เห็นต่าง โดยเฉพาะบรรดานักการเมืองจากพรรครัฐบาลที่ถูกกองทัพโค่นล้ม
มิน อ่อง หล่าย ได้สถาปนาและแต่งตั้งให้ตนเองขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเมียนมานับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมขยายช่วงระยะเวลาของสถานการณ์ฉุกเฉิน ก่อนที่รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government: NUG) หรือรัฐบาลเงาเมียนมา ที่จัดตั้งขึ้นโดยฝ่ายสนับนับสนุนประชาธิปไตยในเมียนมาอย่างคณะกรรมการผู้แทนสมัชชาแห่งสหภาพ (CRPH) ประกาศสงครามกับกองทัพเมียนมา เรียกร้องให้ประชาชนลุกฮือต่อต้านระบบเผด็จการทหาร
ล่าสุด สมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองของเมียนมา (AAPP) รายงานถึงสถานการณ์ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตหลังการก่อรัฐประหารแล้ว 1,120 ราย ยังคงถูกจับกุมและควบคุมตัวกว่า 6,698 ราย ออกหมายจับแล้ว 1,984 ราย ขณะที่อย่างน้อย 280 รายได้รับการตัดสินโทษแล้ว
บทความที่เกี่ยวข้อง:
ย้อนชมคลิป: “ผมฆ่าประชาชนร่วมชาติไม่ได้” เสียงทหาร-ตำรวจเมียนมาที่ลี้ภัยไปอินเดีย ในวันที่โทษประหารรออยู่
ภาพ: Thierry Falise / LightRocket via Getty Images
อ้างอิง: