Huawei ประเทศไทย เดินหน้าผลักดันนวัตกรรม ใช้กลยุทธ์ทำก่อนใครในโลก ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เป็นตัวชูโรง และขยายช็อปเพิ่ม 30 สาขาในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อรุกหนักตลาดทั่วประเทศ
ทศพร นิษฐานนท์ รองผู้อำนวยการบริษัท หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด โชว์ตัวเลขรายได้ธุรกิจ Consumer Business Group (CBG) ของ Huawei ทั่วโลก ล่าสุดสูงกว่า 1 แสนล้านหยวน หรือราว 5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 36.2% ขณะที่ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนกว่า 73 ล้านเครื่อง เติบโต 20.6% ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดของสมาร์ทโฟนทั่วโลกคิดเป็น 11.3% ยังรั้งอันดับ 3 เป็นรอง Apple และ Samsung
สำหรับผลประกอบการในเมืองไทย Huawei ไม่ได้ให้รายละเอียด แต่เปิดเผยอัตราการเติบโตของรายได้ Huawei ในประเทศไทยเติบโตถึง 400% หรือ 4 เท่าตัวจากปี 2016 และจำนวนรายได้จากยอดขายสมาร์ทโฟนเติบโต 720% หรือกว่า 7 เท่า ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก
Huawei ตั้งเป้าประเทศไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์ (Strategic Country) ในการทำการตลาดที่เข้มข้น เนื่องจากในประเทศไทยมีเพียง Samsung และ Huawei เท่านั้น ที่ใช้กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์และราคาสำหรับทุกเซกเมนต์ตั้งแต่ระดับบนที่นำเสนอเทคโนโลยีทันสมัยราคา 2 หมื่นบาทขึ้นไป ระดับกลางราคา 1-2 หมื่นบาท และระดับพื้นฐานที่เลือกซื้อสมาร์ทโฟนในราคาต่ำกว่า 1 หมื่นบาทลงไปเน้นฟังก์ชันเยอะ แต่คุ้มราคา
ผู้บริหารของ Huawei ประกาศว่า จะเน้นขยายฐานลูกค้าระดับกลางให้มากขึ้นเป็น 40% ของลูกค้าทั้งหมด เนื่องจากกลุ่มนี้มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพ โดยการขายเกือบทั้งหมดจะขายผ่านดีลเลอร์ ซึ่งขณะนี้มีช็อปจำนวน 60 สาขา และจะขยายอีก 30 สาขารวมเป็น 90 สาขาในเดือนธันวาคมนี้ โดยสาขาเปิดใหม่ครึ่งหนึ่งจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อีกครึ่งหนึ่งจะกระจายไปตามหัวเมืองใหญ่เช่น เชียงใหม่ สงขลา
แม้จะเป็นตลาดน่านน้ำสีแดงที่แข่งขันกันดุเดือด แต่ด้วยผลตอบรับในแบรนด์ Huawei ดีขึ้นเรื่อยๆ ในระดับโลก ความฮึกเหิมในการรุกตลาดโลกรวมถึงประเทศไทยครั้งนี้จึงเป็นการส่งสัญญาณการชิงไหวชิงพริบในตลาดสมาร์ทโฟนที่ต้องจับตา