จากวงดนตรีที่ฟอร์มวงในลอสแอนเจลิสเมื่อปี 2009 จนกลายเป็นที่โด่งดังจากเพลง Pumped Up Kicks (Torches, 2011) และได้ยอดวิวในยูทูบไปกว่า 350 ล้านวิว วันนี้พวกเขามาพร้อมอัลบั้มใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Sacred Hearts Club ที่มีการดีไซน์ดนตรีให้เหมาะกับการเล่นสดที่สุด! ถ้าแฟนๆ ชาวไทยอยากชมโชว์สดๆ จาก Foster the People ก็เตรียมไปสนุกกันได้เลย เพราะ 28 มกราคมปีหน้า Foster the People จะมีคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยอย่างเป็นทางการที่มูนสตาร์สตูดิโอ โดยมีสมิทธิ เพียรเลิศ แห่ง The Very Company ที่เพิ่งเปิดดีลใหญ่พาเลียม แกลลาเกอร์มาเล่นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมาเป็นโปรโมเตอร์พา 4 หนุ่มอินดี้ป๊อบมาระเบิดความมันในครั้งนี้

ส่วนวันนี้นักร้องนำประจำวง มาร์ค ฟอสเตอร์ (Mark Foster) ก็ได้แบ่งเวลาระหว่างทัวร์ในลอสแอนเจลิส ต่อสายโทรศัพท์มาพูดคุยกับ THE STANDARD ทั้งเรื่องอัลบั้มล่าสุด โชว์ในกรุงเทพฯ และตัวละครลับ จีนา มาโลน (Jena Malone)

หลังจากออกทัวร์มาแล้วสักพัก แล้วก็ปล่อยอัลบั้มที่สามอย่าง Sacred Hearts Club มาให้แฟนๆ ฟังแล้ว กระแสตอบรับจากโชว์เป็นอย่างไรบ้าง?

เยี่ยมเลยครับ ผมว่าโชว์รอบนี้มันเหมือนเป็นโชว์ที่เราไม่เคยเล่นมาก่อน มันไม่เหมือนกับโชว์ไหนเลย อาจจะเป็นเพราะว่าอัลบั้มนี้เราเขียนมาเพื่อให้เล่นสดเป็นหลัก คือต้องฟังตอนเล่นสดจะสนุกกว่าฟังจากอัลบั้มปกติ มันเลยทำให้เราเล่นสดแล้วสนุกมาก

แล้วเพลงไหนจากอัลบั้มที่เล่นสดแล้วมันสุด?

ส่วนตัวผมชอบเล่น Pay The Man, Loyal Like Sid & Nancy, Sit Next to Me แล้วก็ Harden the Paint แต่ถ้าที่ชอบที่สุดจริงๆ ก็คง Loyal Like Sid & Nancy ครับ

พูดถึงเพลง Sit Next to Me ที่คุณเพิ่งปล่อยมิวสิกวิดีโอมาล่าสุดเลย เราชอบมันมากๆ เล่าเกี่ยวกับเพลงนี้ให้ฟังหน่อย

ผมชอบเล่นอินสตาแกรมมาก เล่นอยู่อย่างเดียวเลยในแอปฯ โซเชียลมีเดียอื่นๆ สิ่งที่มันน่าสนใจเกี่ยวกับอินสตาแกรมคือคุณสามารถเลื่อนๆ ดูรูปจากทุกที่เต็มไปหมด มันอัดแน่นไปด้วยข้อมูลเยอะมากที่มาจากรอบโลก ทุกอย่างไม่เกี่ยวกัน มีทั้งรูปเชิง Political รูปแมวน่ารักๆ คลิปตลกๆ ของคนขี่จักรยานแล้วล้ม อะไรแบบนี้ มันแรนดอมมาก เราเลยอยากเอาจุดนี้มาสร้างสรรค์ใหม่เป็นมิวสิกวิดีโอในหน้าตาของอินสตาแกรมแนวตั้ง เหมือนคนดูกำลังอยู่ในหน้าฟีดอินสตาแกรม ผมว่ามันใหม่มากในวงการมิวสิกวิดีโอเลยทีเดียว

เราคิดว่าคุณน่าจะตอบเป็นล้านคำถามแล้วเกี่ยวกับอัลบั้มล่าสุดนี้ เราเองก็ไม่อยากถามซ้ำ ถ้างั้นคุณมีเรื่องอะไรสนุกๆ ที่ยังไม่เคยบอกสื่อไหนเกี่ยวกับอัลบั้มนี้มาเล่าให้เราฟังหน่อยไหม

โห…ยากมากเลย อ่อ มันมีเพลงในอัลบั้มที่ชื่อว่า ‘Static Space Lover’ ที่ผมร้องกับ  จีนา มาโลน (The Hunger Games, Neon Demon) รู้มั้ยว่าเราเขียนเพลงนี้ตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอจีนาเลย จริงๆ ผมเป็นแฟนคลับเธอมาตั้งนานแล้ว ทั้งในฐานะนักแสดง ในผลงานเพลงของเธอ จนวันหนึ่งเพื่อนผมพาเธอมาเยี่ยมที่สตูดิโอ และแนะนำให้รู้จัก จีนาซื้อแซนด์วิชมาฝากด้วย พวกเราก็นั่งชิลล์ แล้วก็เปิดเตกีลาดื่มกัน ตอนนั้นพวกเราก็เลยนั่งแต่งเพลงขึ้นมา ผมเล่นกลอง คีย์บอร์ด ทำไปทำมาไม่กี่ชั่วโมงเพลงก็เสร็จแล้ว แล้วเชื่อมั้ยว่าหลังจากนั้นจีนา มาโลน ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งไปเลย

แล้วที่เจ๋งกว่านั้นจริงๆ แล้วจีนาเป็นที่มาของชื่ออัลบั้มล่าสุดนี้ด้วยนะครับ ชื่อ ‘Sacred Hearts Club’ คือตอนนั้นผมไปเที่ยวพม่าคนเดียว แล้วเธอก็ดันไปพม่าคนเดียวเหมือนกัน มีวันหนึ่งที่ซ้อนทับกันพอดี เลยนัดเจอกันไปนั่งเรือเล่น นอนเล่นบนเรือ แล้วคุยกันเรื่องศิลปินระดับตำนาน อย่าง แพตตี สมิธ (Patti Smith), แอนดี้ วอร์ฮอล (Andy Warhol) หรือศิลปินในอดีตที่เราชื่นชมกัน ผมเลยถามขึ้นมาว่าคนเหล่านี้เรียกว่าอะไรนะ สิ่งที่พวกเขาเป็น ความที่คนพวกนี้ไม่เหมือนมาจากโลกเดียวกับเรา พวกเขาเหมือนได้ยินเสียงในใจตัวเอง มีหลักการใช้ชีวิตต่างจากเรา ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ มันเรียกว่าอะไร แล้วเธอก็ตอบว่า ‘Sacred hearts club’ ตั้งแต่นั้นผมก็ชอบคำนี้มาก แล้วก็กลายเป็นคำประจำใจของผมในการทำอัลบั้มนี้เลย มันสะท้อนการใช้ชีวิต ความรัก ความกลัวต่างๆ ในชีวิตโดยไม่มีขอบเขตอะไรมากั้น

คอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นโชว์ครั้งแรกในไทยของคุณด้วย แต่ส่วนตัวแล้วคุณเคยมาเที่ยวเมืองไทยหรือยัง?

เคยมาเที่ยวประเทศไทยแล้วครับ ตอนนั้นผมมาคนเดียว แต่ยังไม่เคยไปกรุงเทพฯ นะ ผมเลือกไปพังงากับภูเก็ต แล้วก็ชอบมากๆ เลย ไทยเป็นหนึ่งในที่ที่ผมชอบที่สุดตั้งแต่เดินทางไปเที่ยวมา ตอนพวกเราวง Foster the People รู้ว่าจะได้มาไทยคือดีใจกันมาก ถึงแม้ผมจะไม่เคยไปกรุงเทพฯ ก็เถอะ แต่ก็ได้ยินว่ากรุงเทพฯ สนุกและบ้ามาก พวกเราตื่นเต้นมาก เพราะทุกที่ในทัวร์ครั้งนี้เราเคยไปมาหมดแล้ว ยกเว้นประเทศไทยนี่แหละครับ ทุกคนในวงเอาแต่พูดถึงคอนเสิร์ตที่ไทยไม่หยุดเลย

แสดงว่าเรามีโอกาสจะได้เจอพวกคุณอยู่เที่ยวในกรุงเทพฯ ต่ออีกสักพักหลังโชว์จบรึเปล่า?

ผมอยากมาก แต่พวกเรามีเวลาน้อย ต้องเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ต่อ มันน่าเศร้าเหมือนกันเพราะตอนแรกเรานึกว่ากรุงเทพฯ จะเป็นทัวร์ที่สุดท้ายครั้งนี้ เราจะได้มีเวลาอยู่เที่ยวกันต่ออีกสักพัก แต่โชว์ในสิงคโปร์เพิ่งเพิ่มมาวินาทีสุดท้ายเลยครับ ผมยืนยันว่าเราอยากอยู่เที่ยวนะ อาจจะวนกลับมาเที่ยวไทยอีกทีหลังจบทัวร์ และที่แน่ๆ คืนนั้นหลังเล่นเสร็จเราก็ไม่น่าได้นอนกันนะครับ (หัวเราะ)

เอาล่ะ พวกเรามาจาก THE STANDARD และเราก็มีสโลแกนว่า STAND UP FOR THE PEOPLE เราเลยอยากรู้ว่าตอนนี้คุณกำลัง Stand Up For อะไรอยู่?

ถือว่าเป็นคำถามสำคัญในประเทศผมมากเลยนะครับ สำหรับผมคือ ‘Unity’ ครับ ผมชอบความแตกต่างในตัวทุกคน ผมชอบที่แต่ละคนมีความต่างกันอยู่ และนั่นทำให้ชีวิตเรามีความน่าสนใจ ไม่ว่าจะผิวสีไหน นับถือศาสนาอะไร เกย์ หรือหญิงชายแท้ใดๆ ทั้งหมดผมว่ามันคือสิ่งที่สวยงาม แต่ในประเทศของผมตอนนี้มันแบ่งแยกกันมากจากประเด็นเรื่องการเมือง สำหรับผมการรวบรวมทุกคน และยอมรับในความแตกต่างเหล่านั้น ยอมรับในสิ่งที่ทุกคนเป็น มันสำคัญมากๆ ผมเลยอยากพูดถึงสิ่งนี้ในปีนี้ครับ

ฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยหน่อย

(มาร์คพูดภาษาไทยว่า “สวัสดีครับ” และหัวเราะ) ผมตื่นเต้นมากที่จะได้โชว์ จะได้เจอแฟนๆ ชาวไทย ครั้งที่แล้วที่ผมไปประเทศไทย มันมีสิ่งที่ทำให้ผมดีใจมากคือชาวไทยทุกคนเป็นมิตร และเป็นกันเองมากทุกครั้งที่ผมยิ้มให้ แม้ผมจะพูดไทยไม่ได้ แต่รู้สึกว่าได้รับการต้อนรับอย่างเต็มที่จากคนไทย ผมว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะต้องพิเศษมากๆ ครับ

จากที่เราอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Sacred Hearts Club และได้ฟังคำตอบสุดน่ารักจาก มาร์ค ฟอสเตอร์ ก็ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่า Foster the People กลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่ ที่คงเอกลักษณ์ของวง และไม่ได้พูดถึงประเด็นการเมืองซีเรียสๆ เหมือนเมื่อก่อน (รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเพลงฮิตของพวกเขาอย่าง Pumped Up Kicks นั้นว่าด้วยเรื่องของกฎหมายการครอบครองปืนในสหรัฐอเมริกา) อัลบั้มนี้พวกเขาเลือกที่จะพูดถึงความรักกันล้วนๆ พร้อมเพลงที่ดีไซน์มาให้ฟังแบบเล่นสด

ใครอยากไปสนุกกับโชว์ครั้งแรกของ Foster the People ในประเทศไทย วันที่ 28 มกราคม 2561 เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ticketmelon.com/event/fosterthepeople