สำนักข่าว Reuters รายงานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงชาติตะวันตก ภายในสนามบินฮามิด คาร์ไซ ในกรุงคาบูล ว่าเที่ยวบินอพยพของกองทัพชาติตะวันตกหลายเที่ยวบิน ได้กลับมาเริ่มปฏิบัติการอพยพนักการทูตและพลเรือนออกจากอัฟกานิสถานอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (17 สิงหาคม) หลังเจ้าหน้าที่สามารถเคลียร์ฝูงชนทั้งหมดออกไปจากลานบินและรันเวย์ของสนามบินที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพสหรัฐฯ ได้แล้ว
โดยเมื่อวานนี้ (16 สิงหาคม) ทางการสหรัฐฯ ตัดสินใจระงับเที่ยวบินอพยพนานหลายชั่วโมง หลังสถานการณ์ภายในสนามบินกรุงคาบูลเต็มไปด้วยความโกลาหล เนื่องจากฝูงชนจำนวนมากที่ตื่นตระหนกกับการยึดครองประเทศของกลุ่มตาลีบันพากันไปเฝ้ารอบริเวณลานบิน เพื่อหวังโดยสารเที่ยวบินอพยพออกจากอัฟกานิสถาน
ขณะที่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากความโกลาหลที่เกิดขึ้นอย่างน้อย 7 คน ในจำนวนนี้มีหลายคนที่พยายามเกาะล้อเครื่องบินขณะบินขึ้น ก่อนร่วงลงมาเสียชีวิต ส่วนทางฝ่ายสหรัฐฯ มีทหารบาดเจ็บ 1 นาย
จอห์น เคอร์บี หัวหน้าโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่ากองทัพสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบินกองทัพหลายลำไปยังสนามบินในกรุงคาบูลอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ หลังจากมั่นใจว่ากองทัพสามารถควบคุมสถานการณ์ในสนามบินไว้ได้
โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา คาดว่ามีกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ ราว 3,000 นาย ประจำการอยู่ในสนามบินเพื่อช่วยเหลือในการอพยพ และกองทัพสหรัฐฯ ยังเตรียมส่งทหารไปเพิ่มอีกราว 1,000 นาย เพื่อช่วยเฝ้าระวังความปลอดภัย ขณะที่คาดว่าในช่วงปลายสัปดาห์นี้จะมีกำลังทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ในสนามบินกรุงคาบูล ราว 6,000 นาย เพื่อควบคุมความปลอดภัยและช่วยเหลืออพยพ
ด้าน รอส วิลสัน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงคาบูล โพสต์ทวิตเตอร์ปฏิเสธข่าวลือที่ว่าตัวเขาและเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ได้หนีออกจากอัฟกานิสถานแล้ว โดยยืนยันว่ายังอยู่ในคาบูล เพื่อช่วยเหลืออพยพพลเรือนอเมริกันและชาวอัฟกานิสถานที่ทำงานให้สหรัฐฯ รวมมากกว่า 1,000 คน
ส่วนประเทศอื่นๆ พบว่าฝรั่งเศสและเยอรมนีได้ส่งเครื่องบินกองทัพเร่งอพยพนักการทูตและพลเรือน เช่นเดียวกับอังกฤษที่ส่งกำลังทหารอีก 200 นายไปยังคาบูลเพื่อช่วยเหลือในการอพยพ
ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้แถลงท่าทีต่อสถานการณ์ในอัฟกานิสถานเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ โดยยอมรับว่าการล่มสลายของรัฐบาลอัฟกานิสถานนั้นรวดเร็วมากกว่าที่สหรัฐฯ คาดคิดไว้ และปกป้องการตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถาน ยุติการทำสงครามที่ยาวนานกว่า 20 ปี โดยชี้ว่าไม่เคยมีช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถอนทหาร
“ผมยืนหยัดอย่างหนักแน่นต่อการตัดสินใจของผม หลังจาก 20 ปี ผมได้เรียนรู้ด้วยความยากลำบาก ว่าไม่เคยมีช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะถอนทหารสหรัฐฯ” ไบเดนกล่าว พร้อมชี้ว่าภารกิจในอัฟกานิสถานไม่ใช่การสร้างชาติ และยืนยันว่าปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายจะยังคงดำเนินต่อไป
ขณะที่ไบเดนกล่าวถึงความพ่ายแพ้ของผู้นำรัฐบาลและกองทัพอัฟกานิสถานที่ได้รับการฝึกฝนและสนับสนุนจากวอชิงตัน แต่กลับหนีและไม่ยืนหยัดต่อสู้กับกลุ่มตาลีบันที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ด้อยกว่า โดยระบุว่ากองทัพอัฟกานิสถานนั้นไม่มีใจที่จะต่อสู้เพื่ออนาคตของตัวเอง
“เราให้ทุกโอกาสแก่พวกเขาในการกำหนดอนาคตของตัวเอง เราไม่สามารถให้เจตจำนงในการต่อสู้เพื่ออนาคตแก่พวกเขาได้” เขากล่าว
สำหรับภารกิจอพยพนักการทูตและพลเรือนของสหรัฐฯ นั้น ไบเดนประกาศว่า ประชาชนอเมริกันและชาวอัฟกานิสถานที่ทำงานกับกองทัพสหรัฐฯ รวมหลายพันคน จะได้รับการอพยพในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมทั้งเตือนการตอบโต้อย่างรุนแรง หากกลุ่มตาลีบันทำการโจมตีเพื่อขัดขวางการอพยพ
ภาพ: Photo by Hauke-Christian Dittrich / picture alliance via Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.aljazeera.com/news/2021/8/17/evacuation-flights-resume-as-biden-defends-afghanistan-pullout
- https://www.channelnewsasia.com/world/biden-breaks-silence-defend-afghan-evacuation-2116731
- https://in.news.yahoo.com/us-resumes-flight-operations-kabul-053230475.html
- https://edition.cnn.com/world/live-news/afghanistan-taliban-us-news-08-17-21/index.html
- https://www.nytimes.com/2021/08/16/us/politics/kabul-airport-flights.html