แม้ว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาสแรกที่ผ่านมาจะฟื้นตัวได้ถึง 2.37 เท่าตัว จากช่วงเดียวกันของปี 2563 แต่การกลับมาแพร่ระบาดของโควิดในประเทศที่รุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ส่งผลให้ผู้บริหารของบริษัทต่างๆ กลับมากังวลต่อแนวโน้มในระยะถัดไปอีกครั้ง
จากการสำรวจความเห็นของ ‘ซีอีโอ’ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ผ่านการสำรวจของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ซีอีโอส่วนใหญ่คาดว่าการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่จะเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ซึ่ง 89% ของซีอีโอกังวลว่าการแพร่ระบาดในรอบนี้จะทำให้กำลังซื้อในประเทศลดลง
ขณะเดียวกัน ซีอีโอกังวลว่าการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบเช่นกัน รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือที่อาจจะรุนแรงขึ้น
เอกชนมองว่าภาครัฐควรเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อภาคประชาชน สำหรับระยะเวลาการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนจะกลับไปอยู่ระดับเดียวกับปี 2562 ได้นั้น ซีอีโอส่วนใหญ่คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด
นอกจากนี้ เรื่องของการปรับกระบวนการทำงานให้รองรับกับการทำงานดิจิทัล แต่กฎหมายภาครัฐยังไม่มีการปรับให้รองรับการทำงานของภาคเอกชน ยังคงเป็นรูปแบบเอกสารและต้องติดต่อตามสำนักงานต่างๆ จึงเสนอให้ภาครัฐปรับปรุงกฎหมายเพื่อช่วยลดต้นทุนการทำงานของภาคเอกชน และควรจะมีการวางแผนระยะยาวสำหรับการสนับสนุนธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก
ที่ผ่านมามาตรการต่างๆ ให้ผลในระยะสั้น แต่ระยะยาวยังไม่เห็นผล ส่วนโครงการหรือมาตรการต่างๆ มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจประเทศ แต่ไม่มีผลกับบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนนั้นๆ ไม่ได้อยู่ในธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากโครงการหรือมาตรการต่างๆ ซึ่งจะเน้นไปที่บริษัทขนาดกลางและเล็ก ขณะที่บริษัทจดทะเบียนที่ตอบแบบสอบถามเป็นบริษัทขนาดใหญ่
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล