เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา Bloomberg ได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับ 53 ประเทศที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวจากโควิดได้ดีและแย่ที่สุด ผ่านการให้คะแนนใน 12 ด้าน คือ
- อัตราส่วนการกระจายวัคซีนต่อจำนวนประชากร โดยอิงจากจำนวนโดสที่ฉีด
- ความเข้มข้นของมาตรการล็อกดาวน์
- ปริมาณผู้โดยสารทางอากาศในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
- เส้นทางบิน (ทั้งขาเข้าและขาออก) ที่เชื่อมกับประเทศอื่นๆ ซึ่งกลับมาเปิดให้บริการแล้ว
- อัตราของผู้ติดเชื้อต่อจำนวนคน 1 แสนคน ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
- อัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
- จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดต่อจำนวนคน 1 ล้านคน
- อัตราส่วนผู้ที่ติดเชื้อเทียบกับผู้ที่ได้รับการตรวจทั้งหมด ยิ่งสูงแปลว่าประเทศนั้นอาจมีความเสี่ยงจากผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ได้รับการตรวจ
- การเดินทางไปทำงานหรือร้านค้าของผู้คน เทียบกับช่วงเวลาก่อนโควิด
- คาดการณ์ GDP ปี 2564
- ความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุข
- ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index)
จากทั้ง 12 ปัจจัยข้างต้น จะรวมออกมาเป็นคะแนนของแต่ละประเทศ ซึ่งจะบ่งบอกว่าประเทศใดที่มีความทนทานต่อโควิดตลอดช่วงเวลา 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา และอยู่ในตำแหน่งที่ดีมากน้อยกว่ากัน สำหรับการกลับมาสู่สภาวะปกติ
จากข้อมูลล่าสุดนี้ สหรัฐฯ เป็นอันดับหนึ่งที่มีแนวโน้มจะกลับมาสู่สภาวะปกติได้ดีที่สุด ด้วยปัจจัยหนุนสำคัญคือการกระจายวัคซีนได้ครอบคลุม 50.3% ของประชากร และเริ่มเห็นการกลับมาเดินทางทางอากาศมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่หลายพื้นที่ไม่จำเป็นต้องมีการล็อกดาวน์อีกแล้ว
สำหรับประเทศไทยรั้งอยู่ในอันดับ 39 จากทั้งหมด 53 อันดับ ซึ่งด้านที่ไทยทำได้ค่อนข้างดีเทียบกับในกลุ่มคือ อัตราการตายที่ค่อนข้างต่ำ ในมุมกลับกัน สิ่งที่ด้อยกว่ากลุ่มค่อนข้างมากคือ อัตราการเติบโตของ GDP ในปีนี้ รวมปริมาณการเดินทางโดยเครื่องบินในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีค่อนข้างน้อย รวมถึงอัตราการกระจายวัคซีนที่ประมาณ 6-7% เทียบกับประเทศในกลุ่มบนซึ่งสามารถกระจายวัคซีนได้เกินกว่า 30% ของประชากร
ในส่วนของประเทศอย่างนิวซีแลนด์ (อันดับ 2) และสิงคโปร์ (อันดับ 13) ใช้การควบคุมการเดินทางเข้า-ออกประเทศ และระยะเวลากักตัวที่ยาวนาน เพื่อควบคุมอัตราการติดเชื้อให้อยู่ในระดับต่ำใกล้ศูนย์อย่างต่อเนื่อง และแม้ว่าการใช้ชีวิตภายในประเทศใกล้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเต็มที แต่ทั้งสองประเทศก็ยังคงปิดกั้นการเดินทางเข้า-ออกอยู่
ขณะที่ 4 ประเทศรั้งท้าย ได้แก่ อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอาร์เจนตินา แม้ว่า 3 ใน 4 ประเทศ ยกเว้นฟิลิปปินส์ จะสามารถกระจายวัคซีนได้เกินกว่า 10% ของประชากร แต่ด้วยการควบคุมการแพร่ระบาดที่ยังทำได้ไม่ดีนัก ทำให้ผู้คนยังไม่สามารถออกมาใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเท่าใดนัก
Bloomberg ได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับ 53 ประเทศที่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวจากโควิดได้ดีและแย่ที่สุด ผ่านการให้คะแนนใน 12 ด้าน เช่น อัตราส่วนการกระจายวัคซีน ความเข้มข้นของการล็อกดาวน์ คาดการณ์การเติบโตของ GDP ปี 2564 รวมถึงปริมาณการเดินทางทางอากาศ เป็นต้น
สำหรับประเทศไทย รั้งอยู่ในอันดับ 39 จากทั้งหมด 53 อันดับ ซึ่งด้านที่ไทยทำได้ค่อนข้างดีเทียบกับในกลุ่มคือ อัตราการตายที่ค่อนข้างต่ำ ในมุมกลับกัน สิ่งที่ด้อยกว่ากลุ่มค่อนข้างมากคือ อัตราการเติบโตของ GDP ในปีนี้ รวมปริมาณการเดินทางโดยเครื่องบินในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ภาพประกอบ: พรวลี จ้วงพุฒซา
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: