วันนี้ (9 มิถุนายน) จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 500,000 ล้านบาทว่า กว่า 7 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ก่อหนี้สาธารณะไม่ต่ำกว่า 5.5 ล้านล้านบาท แล้วรัฐบาลจะชี้แจงว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่น่าห่วงนักหรืออยู่ประมาณ 58% ของ GDP แต่ตัวเลขดังกล่าวเป็นข้อมูลเมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังไม่ครอบคลุมทุกมิติ เพราะงบประมาณขาดดุลประจำปี 2564 ที่กำลังพิจารณาในสภาฯ จะเริ่มนับการขาดดุลเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 2.5-3.5% แต่ในสถานการณ์เวลานี้ไม่มีทางที่เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ตามเป้า
นอกจากนี้สถานการณ์โควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ คาดว่ามีความเสียหายไม่ต่ำกว่าเดือนละ 100,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 ส่วน ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยคาดการณ์ว่าไม่เกินกลางปีหน้า หนี้สาธารณะไทยจะไปแตะเทียบระดับ 62% ของ GDP เป็นอย่างต่ำ ซึ่งเกินกว่ากรอบพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วินัยการเงินการคลัง และอีกไม่นานอาจต้องไปแก้กรอบกฎหมาย
จุลพันธ์อภิปรายอีกว่า สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ เป็นแต่สร้างหนี้ สร้างภาระให้กับคนรุ่นหลัง แล้วการกู้เงินอีก 500,000 ล้านบาท รัฐบาลจะใช้หนี้ดังกล่าวอย่างไร เพราะยังไม่ปรากฏแผนชำระหนี้ดังกล่าว จะกลายเป็นภาระของรัฐบาลชุดต่อไปหรือไม่
นอกจากนี้ยังชี้ว่ารัฐบาลมีความผิดพลาดในการบริหารวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งในต่างประเทศได้วางแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้ว พร้อมกับตั้งเป้าเติบโต 7-8% ขณะที่ไทยสวนทางกับโลก ตัวเลขจำนวนติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น แต่เศรษฐกิจกลับดิ่งเหว ขณะเดียวกันวงเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ปีที่ผ่านมาก็เคยโฆษณาว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจจากติดลบ 8% เหลือติดลบ 6.2% ของ GDP ซึ่งการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียง 2% นับเป็นความล้มเหลวในการบริหารของรัฐบาลหรือไม่ สะท้อนความพังพินาศการบริหารงานของรัฐบาลโดยไม่นับเป็นความสำเร็จ
“นอกจากนี้ยังเห็นความไม่พร้อมในการจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 เห็นได้จากโรงพยาบาลต้องเรียกขอเงินบริจาคทั้งที่รัฐบาลมีเงินพอที่จะช่วย เหตุใดจึงเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น ก็เพราะความไร้ประสิทธิภาพของท่านใช่หรือไม่ หากรัฐบาลบริหารจัดการงบประมาณให้ดีก็จะสามารถช่วยชีวิตคนจากโควิด-19 ไปได้อีกมาก
ทั้งนี้ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา รัฐบาลมีการดีเดย์ฉีดวัคซีนปูพรมทั่วประเทศ รัฐบาลทำการฉลองกันใหญ่โต แต่แท้จริงแล้ว ตัว D ย่อมาจากดีเลย์ คือการมาช้า หากการบริหารจัดการวัคซีนถูกต้อง มีวัคซีนอย่างหลากหลายและเพียงพอ ก็จะสามารถฉีดให้ประชาชนได้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก็จะไม่มีคนล้มตายเพราะโควิด-19” จุลพันธ์กล่าว
จุลพันธ์อภิปรายอีกว่า หากรัฐบาลบริหารจัดการงบประมาณให้ดี เงิน 500,000 ล้านบาท ก็ไม่จำเป็นต้องกู้ เพราะประชาชนจะมีภูมิต้านทานจากการฉีดวัคซีนและการแพร่ระบาดก็จะไม่หนักเท่านี้ ซึ่งรัฐบาลก่อน คือ ทักษิณ ชินวัตร มีนโยบาย 4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง แต่รัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาล 7 ปีจน 7 ปีเจ๊ง หากให้บริหารต่ออีก 7 ปี ประเทศนี้ก็จะถึงจุดจบทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน และไม่เห็นว่าเงิน 500,000 ล้านบาทนี้ จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น