ความท้าทายจากการระบาดของโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจต่างๆ ในระดับที่หลากหลาย และแม้แต่ AIS (บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่มีส่วนแบ่งในตลาดมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทยด้วยจำนวนผู้ใช้งาน 41.4 ล้านราย ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา AIS มีรายได้รวมที่ 172,890 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 4.4% และมีกำไรสุทธิในปีที่ผ่านมาที่ 28,423 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ที่ราว 8.9%
ที่น่าสนใจก็คือหากไปดูงบการดำเนินการของบริษัทให้ดีก็จะพบว่า แม้ AIS จะมีรายได้จากธุรกกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ 118,082 ล้านบาท ลดลงที่ 6.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ฐานผู้ใช้งานสิ้นสุด ณ ไตรมาส 4/63 ที่ 41,436,800 ล้านราย ลดลงจากปีที่แล้ว 1.4% และมี APRU หรือรายได้ต่อเลขหมายลดลงจาก 252 บาทเหลือ 234 บาท สืบเนื่องจากผลกระทบของการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในตลาด รวมถึงการขาดหายไปของรายได้จากลุ่มนักท่องเที่ยว (ซิมโรมมิ่ง)
(สถิติการใช้งาน 5G นับตั้งแต่เปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน มีลูกค้ารวมทั้งสิ้น 239,000 รายแล้ว)
แต่หากมองภาพรวมธุรกิจของบริษัทก็จะพบว่ากลุ่มธุรกิจอื่นๆ ของ AIS ล้วนแล้วแต่มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นทั้งสิ้น โดยเฉพาะ ‘ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง AIS Fibre’ ซึ่งมีรายได้รวมที่ 6,959 ล้านบาท เติบโตมากถึง 22% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นและดีมานด์ที่ปรับขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่กระแส Work from Home ในช่วงมีนาคมปีที่แล้ว
โดยมีฐานผู้ใช้งานรวมสิ้นสุด ณ ไตรมาส 4/63 ที่ 1,336,900 ราย เติบโตขึ้นจากปี 2562 ที่ 29% ทั้งนี้สืบเนื่องจากกการที่ตลาดผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตบ้านมีการแข่งขันด้านกลไก ‘ราคา’ ค่าบริการไม่แพ้กลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ จึงส่งผลให้รายได้ต่อผู้ใช้งาน (ต่อเดือน) หรือ APRU ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อยที่ 11% จาก 533 บาท ลงมาอยู่ที่ 476 บาท
สำหรับในปี 2564 นี้ AIS ยังคงพร้อมจะพัฒนาโครงข่าย 5G อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมงบประมาณสำหรับการลงทุนรวมทั้งสิ้น 25,000-30,000 ล้านบาท ส่วนนโยบายจ่ายเงินปันผลยังคงยึดนโยบายจ่ายไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ โดยเตรียมจ่ายเงินปันผล 3.68 บาทต่อหุ้นในวันที่ 20 เมษายน 2564
ด้าน สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากวิกฤตโควิด-19 ช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ทุกภาคส่วนได้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน และตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด ฟื้นฟูภาคเศรษฐกิจ และเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศชาติให้เติบโตอย่างยั่งยืน
“เรายังเชื่อมั่นว่าโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลโดย 5G ซึ่งปัจจุบัน AIS ถือครองคลื่นความถี่ทั้ง 4G และ 5G มากที่สุด ครอบคลุมมากที่สุดในไทย จำนวน 1420MHz และภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะได้รับใบอนุญาตคลื่น 26GHz ครบทั้ง 3 ย่านความถี่ สูง กลาง และต่ำ จะมีส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพของการขยายเครือข่าย 5G เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าคนไทย และผลักดันส่งเสริมให้เกิดการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม
“โดย AIS จะเดินหน้าจัดสรรงบลงทุนในปี 2564 จำนวน 25,000-30,000 ล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลสำหรับประเทศไทย และพร้อมจะเป็นแกนกลางสนับสนุนทุกภาคส่วน จากความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ใน Digital Ecosystem เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศชาติให้ก้าวผ่านทุกความท้าทายอย่างยั่งยืน”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
