เรียกได้ว่าเป็นการเข้ารับตำแหน่งโดยปราศจากช่วงหวานเย็นในการเริ่มต้นงานอย่างแท้จริงสำหรับประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพราะทันทีที่เข้าพิธีสาบานตนอย่างเป็นทางการ เจ้าตัวก็เดินหน้าทำงานทันที โดยหนึ่งในงานเร่งด่วนก็คือการลงนามในคำสั่งผู้บริหารเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อใช้เป็นแนวทางบรรเทาเยียวยาแก้ขัด ในระหว่างที่รอให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐออกมา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า คำสั่งพิเศษที่ประธานาธิบดีไบเดนลงนามเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้มีด้วยกันอย่างน้อย 2 ฉบับ โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดหาความช่วยเหลือด้านการเงินและความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับครอบครัวชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด -19
โดยในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรก ผู้นำสหรัฐฯ จะขยายสวัสดิการสำหรับโครงการด้านอาหารที่ให้แก่ครอบครัวคนอเมริกันผู้มีรายได้ต่ำ รวมทั้งคนที่ตกงานเพราะการระบาด รวมถึงเพิ่มโครงการอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนอีก 15% ในช่วงที่ยังไม่สามารถกลับเข้าโรงเรียนได้ และอาจรวมถึงการเพิ่มเงินช่วยเหลือด้านอาหารอีกมากกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐในทุกสองเดือนให้แก่ครอบครัวที่มีบุตรเกิน 3 คน
ขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรในการบริหารจัดการอาหาร และสร้างเครือข่ายในการจัดส่งอาหารเพื่อให้แน่ใจว่าชาวอเมริกันทุกคนจะได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ก็ยังประสานงานกับกระทรวงแรงงาน ให้สิทธิ์แรงงานปฏิเสธงานที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยที่ยังคงได้รับความช่วยเหลือในระหว่างการว่างงานนี้ต่อไปได้
ขณะที่คำสั่งฝ่ายบริหารฉบับที่สอง ประธานาธิบดีไบเดนสั่งการให้ส่งเช็คเงินสดแก่ครอบครัวชาวอเมริกันราว 8 ล้านครอบครัวที่ไม่ได้รับเช็คจากมาตรการช่วยเหลือชุดแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งครอบครัวชาวอเมริกันเหล่านั้นต่างมีคุณสมบัติครบถ้วนที่สมควรได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว แต่เงินยังคงไปไม่ถึง ขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นชั่วโมงละ 15 ดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมซึ่งอยู่ที่ 7.25 ดอลลาร์สหรัฐ โดยครอบคลุมถึงลูกจ้างรัฐในระดับสัญญาจ้างด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
