วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์เผยแพร่ข้อมูลผลการทดลองทางคลินิก หรือการทดลองในคนขั้นต้น ของวัคซีนต้านทานโควิด-19 ที่พัฒนาโดย Johnson & Johnson บริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐฯ ในชื่อวัคซีน JNJ-78436735 หรือ Ad26.COV2.S โดยพบว่ามีประสิทธิภาพกระตุ้นการตอบสนองภูมิคุ้มกันในกลุ่มอาสาสมัคร ทั้งวัยรุ่นและผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี
วัคซีน Ad26.COV2.S นั้นเป็นวัคซีนแบบ 1 โดส ซึ่งทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Johnson & Johnson สุ่มให้วัคซีนแก่อาสาสมัครผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรง อายุระหว่าง 18-55 ปี และกลุ่มผู้ที่อายุเกิน 65 ปี รวมทั้งหมด 805 คน ซึ่งแต่ละคนจะได้รับวัคซีนในปริมาณโดสสูงต่ำไม่เท่ากัน หรือได้รับวัคซีนหลอก (Placebo) ขณะที่บางคนในกลุ่มอายุ 18-55 ปี จะได้รับเลือกให้ฉีดวัคซีนโดสที่ 2
จากผลทดลองขั้นต้น พบว่าร่างกายอาสาสมัครส่วนใหญ่ที่ได้รับวัคซีน สามารถผลิตภูมิคุ้มกันที่เป็นกลางและตรวจพบได้ ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่าภูมิคุ้มกันที่สร้างขึ้นจะมีบทบาทสำคัญในการป้องกันเซลล์ในร่างกายจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หลังฉีดวัคซีนผ่านไป 28 วัน และหลังผ่านไป 57 วัน อาสาสมัครทุกคนจะมีภูมิคุ้มกันในร่างกาย และสำหรับอาสาสมัครกลุ่ม 18-55 ปี พบว่าวัคซีนจะยังคงเสถียรภาพในการป้องกันการติดเชื้อได้อย่างน้อย 71 วัน
ส่วนผลข้างเคียงจากวัคซีนที่พบหลังการทดลองคือ มีไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ และปวดบริเวณที่ฉีดวัคซีน ซึ่งในกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีน 1 โดส หรือได้รับวัคซีนในปริมาณต่ำนั้น พบว่าเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า
ทั้งนี้ ดร.พอล สตอฟเฟลส์ หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Johnson & Johnson เปิดเผยข้อมูลการทดลองทางคลินิกในเฟส 1 และ 2 พบว่าวัคซีน Ad26.COV2.S ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันที่ยั่งยืน ซึ่งทำให้บริษัทของเขามั่นใจว่าวัคซีนตัวนี้ จะมีประสิทธิภาพสูงในการต้านทานไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่เป็นต้นตอโรคโควิด-19
ขณะที่วัคซีน Ad26.COV2.S นั้นพัฒนาด้วยเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในการพัฒนาวัคซีนอีโบลา ซึ่งทาง Johnson & Johnson คาดการณ์ว่า จะสามารถเปิดเผยผลการทดลองทางคลินิกเฟสที่ 3 ที่ทำการทดลองกับกลุ่มอาสาสมัครจำนวน 45,000 คน ได้ในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ โดยผู้เชี่ยวชาญต่างจับตามองการอนุมัติใช้งานวัคซีนตัวนี้ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจเกิดขึ้นในเดือนหน้า และอาจกลายเป็นวัคซีนตัวที่ 3 ที่ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ ต่อจากวัคซีนของ Pfizer-BioNTech และ Moderna
ภาพ: JUSTIN TALLIS / AFP
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: