10 ธันวาคม ถือเป็นวันแรกของช่วงหยุดยาว 4 วันที่ภาคการท่องเที่ยวต่างรอคอยให้คนไทยออกมาเดินทางท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลายพื้นที่อาจกำลังคึกคักไปด้วยผู้คนอย่างล้นหลาม แต่ไม่ใช่กับ ‘เชียงใหม่’ ที่เงียบเหงากว่าที่คิด
ผลจากการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 อีกครั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้แทนที่ตัวเมืองจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว แต่ปรากฏว่าค่อนข้างบางตา THE STANDARD ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่โดยเริ่มสำรวจที่ ‘วัดพระธาตุดอยสุเทพ’ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของเชียงใหม่
ความเงียบเหงาเห็นได้ชัดตั้งแต่คิวรถแดงสำหรับขึ้นไปวัดพระธาตุดอยสุเทพที่เราพบว่าไม่มีผู้คนรอคิวอยู่เลย จากการสอบถามผู้ขับรถแดงรายหนึ่งบอกกับเราว่านับตั้งแต่มีข่าวก็ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง โดยหายไปกว่า 90%
“ปกติแล้วตามคิวผมจะขับรถขึ้นไปส่งนักท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 3 รอบ อาจดูเป็นจำนวนไม่เยอะ เพราะรถที่คิวมีค่อนข้างมาก แต่ตอนนี้ได้แค่วันละ 1 รอบ ที่เหลือก็ต้องไปวิ่งในเมืองเอา”
ในช่วงที่นักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก จะใช้เวลารอเพียง 5-10 นาทีก็ได้จำนวนนักท่องเที่ยวครบ 10 คน รถก็พร้อมที่จะออกแล้ว แต่วันนี้ต้องใช้เวลารอกว่า 20 นาที และบางครั้งก็ไม่เต็มคัน คนขับรถจึงใช้วิธีสอบถามนักท่องเที่ยว หากอยากให้ออกเลยก็ขอขึ้นราคาเล็กน้อย จากไป-กลับ 80 บาทต่อคนก็ขอเพิ่มเป็น 100 บาทแทน
เมื่อเดินทางไปถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพในช่วงเวลา 16.00 น. เราพบว่าผู้คนก็ยังไม่มากนัก ยิ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นบันไดยิ่งไม่มีเลย จากปกติหากเป็นวันหยุดยาว บริเวณบันไดจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว แม้ขึ้นไปด้านบนของวัดก็จะมีผู้คนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากเหมือนปกติ
จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงสอดคล้องกับการสอบถามผู้ขับ Grab รายหนึ่งที่ให้ความเห็นว่า แม้คนเชียงใหม่จะใช้บริการตามปกติ แต่ในส่วนของนักท่องเที่ยวนั้นลดลงไปไม่น้อยกว่า 50% ซึ่งญาติที่ให้เช่ารถก็บอกว่านักท่องเที่ยวโทรเข้ามายกเลิกการจองค่อนข้างเยอะเหมือนกัน
“นักท่องเที่ยวในเชียงใหม่เริ่มคึกคักตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป แต่ตอนนี้กลับหายไปเลย ทั้งๆ ที่กำลังจะลืมตาอ้าปากได้แล้ว แต่เหมือนกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง”
ผู้ขับ Grab มองว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเป็นเพราะบางบริษัทได้ออกกฎว่าหากเดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่ กลับไปจะต้องกักตัว 14 วัน โดยต่อเรื่องนี้นั้น เมื่อวานนี้ (9 ธันวาคม) ทางผู้ว่ารายการจังหวัดเชียงใหม่ได้ส่งหนังสือถึง ศบค. ขอประสานหน่วยงาน-จังหวัดเลิกออกมาตรการ ‘มาเชียงใหม่ กลับต้องกักตัว’ ด้วยส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจภาคบริการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก
ขณะที่ข่าวว่าผู้ประกอบการในจังหวัดเชียงรายเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่นำเชื้อเข้ามาในประเทศเป็นวงเงินรวมกันกว่า 20 ล้านบาท ผู้ขับ Grab รายนี้ให้มุมมองว่า “ผมว่าเชียงใหม่ก็ควรฟ้องเช่นกัน จะได้เงินหรือไม่ได้เงินเรายังไม่รู้ แต่อยากให้ฟ้องเพื่อเป็นบรรทัดฐานของสังคม”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์