หลักทรัพย์กสิกรไทย คาดเงินพักฐานตลาดหุ้นเอเชียรอผลเลือกตั้งชัด แนะลงทุนหุ้นกลุ่มแวลู ประเมินกลุ่มเติบโตสูงยังเผชิญความไม่แน่นอน
สรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกวันนี้ (4 พฤศจิกายน) ยังคงรอความชัดเจนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาอยู่ ทั้งนี้ ผลการเลือกตั้งจะมีผลต่อนโนบายการผลักดันเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างมากเนื่องจากผู้ลงสมัคร
“การเลือกตั้งรอบนี้ ไม่น่าจะได้เห็นผลสรุปภายใน 24 ชั่วโมง สิ่งที่ยังต้องติดตามต่อก็คือ รัฐบาลอาจจะขาดเสถียรภาพอยู่ราว 1-2 เดือน ด้วยยังไม่แน่ชัดว่าใครจะชนะการเลือกตั้งกันแน่ ความไม่แน่นอนนี้จะทำให้เงินไหลเข้ามาพักที่ตลาดหุ้นเอเชียก่อน เพื่อรอความชัดเจน”
ทั้งนี้ จากสถิติที่ฝ่ายวิจัยรวบรวมไว้ พบว่าตลาดหุ้นทั่วเอเชียมักจะปรับตัวบวกสูงสุดในวันที่จัดการเลือกตั้งสหรัฐฯ จากนั้นก็จะปรับตัวสอดรับปัจจัยที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
สำหรับหุ้นไทย เชื่อว่าจะได้รับอานิสงส์จากการไหลเข้าลงทุนของเงินทุนต่างชาติเช่นเดียวกัน แต่ภายใต้สมมติฐานว่าการเมืองภายในประเทศที่มีเสถียรภาพ โดยที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมากกว่าตลาดเพื่อนบ้าน ซึ่งหากเงินไหลเข้าลงทุนรอบนี้ ก็น่าจะทำให้ส่วนต่างของหุ้นไทยกับกลุ่ม TIP ลดลงได้
ทั้งนี้ มองว่ากลุ่มหุ้นที่มีแวลูสูง เป็นกลุ่มที่น่าสนใจเข้าลงทุน เช่น หุ้นกลุ่มแบงก์ และไฟแนนซ์บางแห่ง เนื่องจากกลุ่มแบงก์ซื้อต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐาน ขณะที่ผลประกอบการที่เพิ่งประกาศออกมาก็ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ หรือติดลบน้อยกว่าที่คาด นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกความสามารถในการกลับมาจ่ายเงินปันผล ซึ่งเชื่อว่าทุกแบงก์จะสามารถผ่านผลทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) ได้
สรพลกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือเทียบกับสถานการณ์ก่อนการเกิดไวรัสโควิด-19 หรือยืนเหนือระดับ 1,600-1,700 จุด ในอีก 2 ปี เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของจีพีดี และกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS มากกว่า 100 บาทต่อหุ้น)