The Vibe
ชื่อ Orange Badminton มาจากการรวมเอาชื่อของคู่สามีภรรยาคือ ส้ม ซึ่งเป็นคนเกาหลี และ แบดมินตัน เป็นคนไทยมารวมกัน ตั้งเป็นชื่อน่ารักๆ ของที่พักขนาดเล็กเพียง 4 ห้องนอน ซึ่งตกแต่งในสไตล์ร่วมสมัยที่ผสานความเก่าและความใหม่เอาไว้ด้วยกัน เน้นความเรียบง่ายในแบบมินิมัล ภายนอกอาคารคุมโทนสีขาวน้ำตาลด้วยงานปูนและงานไม้ ให้อารมณ์โฮมมี่ๆ อบอุ่นและผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยดีเทลที่ลงรายละเอียดในเรื่องของความสวยงาม อย่างลูกเล่นของเสาไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ซึ่งเป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยความพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ผลงาน ผนังปูนที่ดูเหมือนจะตั้งใจไม่ให้เรียบเนียนตามแบบฉบับของความทันสมัย ช่องลมที่รับแดดจากธรรมชาติ หรือแม้แต่ศิลปะของแสงและเงาที่ตกกระทบลงบนกำแพงสีขาว ล้วนเป็นเสน่ห์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเฉพาะตัวและแตกต่างออกไป
The Room
ด้วยความที่มีขนาดเล็ก จึงมีประเภทห้องให้เลือกเพียง 2 แบบ คือห้องพักขนาดกะทัดรัดพักได้ 1-2 ท่าน และห้องขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับมาพักกับเพื่อนฝูงหรือครอบครัวเล็กๆ ได้ 3-4 ท่าน เราได้เข้าพักในห้องขนาดใหญ่ ถูกใจกับความกว้างขวาง พื้นที่ใช้สอยภายในห้อง มีอ่างอาบน้ำให้แช่ตัวผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า เตียงขนาดคิงไซส์พร้อมที่นอนหนานุ่ม แสงรำไรที่ส่องเข้ามาผ่านผ้าม่านสีขาว ช่วยให้เรารู้สึกอบอุ่น นอนแล้วแทบไม่อยากลุกออกไปเที่ยวไหนเลย
โต๊ะนั่งเล่นส่วนกลางในห้องพักสำหรับ 3-4 ท่าน
เตียงนอนวางแบบเรียบง่าย แต่ให้บรรยากาศอบอุ่นจนไม่อยากลุกไปไหน
The Dish
ด้วยความที่มีพื้นที่น้อย จึงมีการใช้สอยร่วมกันในส่วนของคาเฟ่ ที่จะกลายเป็นห้องอาหารเช้าสำหรับแขกที่มาพัก โดยจะเสิร์ฟชุด Breakfast น่ารักๆ อิ่มพอดีๆ ด้วย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง โยเกิร์ต และผลไม้สดตามฤดูกาล หลังจากมื้อเช้าของแขกจบลงในช่วง 10 โมง ก็จะกลายเป็นช่วงเวลาของร้านกาแฟและเบเกอรี ที่เปิดให้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไป หลังจาก 4 โมงครึ่ง คาเฟ่ก็จะกลับมาเป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับแขกที่มาพัก สามารถเข้ามานั่งเล่น อ่านหนังสือ ถ่ายรูปได้แบบสบายๆ
จุดเด่นของที่นี่ที่เราชอบมากคือ ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบค่อนข้างสูง มีการจัดแบ่งพื้นที่การใช้งานระหว่างโซนที่พักกับโซนคาเฟ่ มีป้ายบอกกฎระเบียบไว้อย่างชัดเจน เช่น จำกัดพื้นที่การถ่ายรูป งดการใช้เสียงดัง เพื่อไม่ให้ลูกค้าที่มาเยี่ยมชมคาเฟ่รบกวนความเป็นส่วนตัวของแขกที่มาพัก
ในส่วนของคาเฟ่นั้น ด้วยความตั้งใจของเจ้าของที่อยากทำ Home Café ไว้สำหรับลูกค้าที่มาพัก หรือใครก็ตามที่ชอบคาเฟ่เล็กๆ เพื่อจะได้มาผ่อนคลาย นั่งอ่านหนังสือ มาวาดรูปขีดเขียน มาใช้เวลากับงานอดิเรก จึงเป็นเหตุผลให้ที่นี่มีแค่ 2 โต๊ะเดี่ยว และ 1 โต๊ะบาร์ยาว นับรวมๆ จะนั่งได้เพียง 8 คนเท่านั้น และจำกัดจำนวนลูกค้าเป็นกลุ่มได้สูงสุดแค่ 3 คนต่อโต๊ะ (หากมาเกิน 3 คนต้องนั่งแยก)
โต๊ะแยกเป็นสัดส่วน เว้นระยะห่างไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวของแขก
สำหรับเมนูจะมีให้เลือกไม่มากนัก เครื่องดื่มจะมีกาแฟ ชา และน้ำผลไม้ เบเกอรีที่ใครไปก็ต้องสั่งคือ Financier ชื่อไม่คุ้นเพราะเป็นขนมฝรั่งเศส ห่อมาด้วยกระดาษเหมือนลูกอม หน้าตาน่ารัก หม่ำคู่กับกาแฟเข้ากันดีมาก หอมอร่อยละมุนลิ้นสุดๆ น้ำสตรอว์เบอร์รีก็แนะนำว่าต้องลอง หวานอมเปรี้ยว หอมชื่นใจมาก ส่วนเมนูอาหารคาว ที่เป็นซิกเนเจอร์เพียงเมนูเดียวในร้านก็คือ ข้าวผัดกิมจิ คาเฟ่จะเปิดให้บริการวันศุกร์ถึงวันอังคาร เวลา 11.00-16.30 น. ปิดทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี
Financier ขนมฝรั่งเศส ชื่อไม่คุ้น แต่รสอร่อย
แถมอีกนิดด้านบนชั้นสองของคาเฟ่ ยังมีร้านขายของเล็กๆ น่ารักๆ เป็นแฮนด์เมดสไตล์มินิมัล มีความเกาหลีมากๆ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้านเก๋ๆ อย่าลืมแวะขึ้นไปชมกันก่อนกลับ
Orange Badminton Chiang Mai
Address: 6/3 ถนนเทวฤทธิ์ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50000
Tel: 08 9418 4994
Cost: เริ่มต้นที่ 1,000++ บาท
Fanpage: www.facebook.com/orangebadminton
Website: www.orangebadminton.com
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า