วันนี้ (19 มิถุนายน) ช่างภาพของ THE STANDARD ลงพื้นที่เก็บภาพบรรยากาศ ตำบลนาชะอัง อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร (ถนนเส้นไปหาดทุ่งวัวแล่น) เพื่อสำรวจศาลาริมทางที่กำลังเป็นกระแส เนื่องจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นของศาลาริมทางหรือศาลาที่พักผู้โดยสารตามริมถนนหลวงทั่วประเทศ ที่แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกดูทันสมัยและสวยงาม แต่สิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างร้องเรียนเป็นเสียงเดียวกันคือ เรื่องของประโยชน์ในการใช้สอยที่ไม่สามารถใช้งานได้โดยเฉพาะการบังแดด บังลม หรือบังฝน เพราะไม่ได้ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม
“ศาลาเหล่านี้มันใช้ไม่ได้เลย เพราะไม่ได้คำนึงถึงหลักธรรมชาติ เวลาฝนมา แล้วมันเป็นเพิงหมาแหงนแบบนี้มันใช้อะไรไม่ได้ พอฝนมาคนก็ต้องเปียก มีแดดมาก็ร้อน ทีนี้ผมคิดว่ามันทำให้ดูหรูหรา แต่คนใช้จริงไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เลย ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่ดูดี แต่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้” สะอาด ทาระการ ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยผ่านสํานักข่าวไทย
อย่างไรก็ตาม ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งแก้ไขโดยด่วน และต้องทำให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและชุมชนแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ สามารถใช้หลบแดดหลบฝนระหว่างรอรถโดยสาร และให้คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของประชาชนและผู้ใช้รถด้วย
ขณะที่ สราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ล่าสุดได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงและแขวงทางหลวงไปสำรวจตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นกับงานก่อสร้างศาลารอรถโดยสารริมถนนหลวงทั่วประเทศและรีบปรับปรุงแก้ไข ซึ่งขณะนี้มีการก่อสร้างศาลารูปแบบดังกล่าวแล้วเสร็จทั่วประเทศ 114 จุด จากแผนงานที่จะมีการก่อสร้าง 449 จุดทั่วประเทศ ซึ่งจะรีบดำเนินการแก้ไขและพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบที่เหมาะสม ประชาชนใช้ประโยชน์ได้จริงโดยด่วน
ทั้งนี้ สราวุธกล่าวเสริมว่า การพิจารณาการเลือกจุดรอพักขึ้นรถโดยสารในรูปแบบต่างๆ ได้พิจารณาในด้านวิศวกรรมความปลอดภัย ตำแหน่งในการก่อสร้างต้องมีระยะปลอดภัยจากช่องจราจรอย่างน้อย 2.50 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ และยังต้องคำนึงถึงประเด็นที่ไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ และระยะมองเห็นที่ปลอดภัย
ภาพ: วุฒิศักดิ์ พรมชู