ปฏิเสธไม่ได้ว่าวันนี้เรื่องที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของเรามากที่สุดคือ ‘โควิด-19’ โรคระบาดที่เกิดขึ้นมาอย่างที่ไม่มีใครตั้งตัวมาก่อน และเมื่อเกิดขึ้นแล้วกลับส่งผลกระทบกับชีวิตของเราในหลากหลายด้าน
หลายคนไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพได้ตามปกติ ด้วย ‘โควิด-19’ เป็นโรคระบาดที่ติดจากคนสู่คนได้ง่าย เราไม่มีทางรู้เลยว่า คนที่เดินผ่านเราหรือยืนข้างๆ ตอนที่อยู่บนรถไฟฟ้าติดโควิด-19 หรือไม่
เพราะตามสถิติ 80% ของผู้ที่ติดเชื้อจะไม่แสดงอาการของโรค หรือหากแสดงก็เพียงเล็กน้อย ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคนี้คือ หยุดอยู่กับบ้านเพื่อช่วยไม่ให้โรคนี้แพร่กระจายออกไป
‘พลังงาน’ ฟันเฟืองสำคัญในชีวิตที่อยู่กับเราตั้งแต่ตื่นถึงเข้านอน แม้ยามวิกฤต
เมื่อต้องหยุดอยู่บ้านเรื่องของพลังงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ ลองคิดภาพว่า ขณะที่เราต้องทำงานจากที่บ้าน จู่ๆ ไฟดับเราไม่สามารถใช้ไฟเพื่อทำงานได้ แค่คิดภาพก็ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแล้ว จึงจะเห็นได้ว่า ‘พลังงาน’ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่สามารถหยุดดำเนินการ เพราะพลังงานเปรียบเหมือนฟันเฟืองในชีวิตพวกเราตั้งแต่ตื่นนอน แปรงฟัน ทำงาน จนถึงเข้านอนเลยทีเดียว
และเพื่อให้คนไทยได้มีพลังงานงานไว้ใช้ พนักงาน ปตท. ยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติการ 24 ชั่วโมงในทุกๆ วัน แม้ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ในพื้นที่ต่างๆ ได้แก่
– โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ทำหน้าที่แยกส่วนประกอบของก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากอ่าวไทย นำไปสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และใช้ในภาคส่วนต่างๆ ประกอบด้วย การนำไปผลิตกระแสไฟฟ้ากว่า 60% อีก 20% นำไปแยกเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบของปิโตรเคมี สำหรับผลิตเป็นเม็ดพลาสติกและวัสดุสังเคราะห์ในการแปรรูปเป็นสินค้าประเภทต่างๆ อาทิ เสื้อผ้า อุปกรณ์ที่ทำจากพลาสติกรอบตัวเรา บรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และ 15% นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับภาคอุตสาหกรรม และอีก 5% ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับยานยนต์นั่นก็คือ NGV
– ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ควบคุมทั้งระบบท่อบนบกและในทะเล ด้วยความยาวกว่า 4,000 กิโลเมตร ลำเลียงก๊าซธรรมชาติตั้งแต่แหล่งผลิต และ LNG Terminal ไปยังโรงไฟฟ้า และโรงงานต่างๆ
– ระบบควบคุมและบริหารการรับจ่ายก๊าซธรรมชาติ เรียกรับก๊าซธรรมชาติจากผู้ผลิต และ LNG Terminal เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีก๊าซธรรมชาติเพียงพอต่อความต้องการตลอด 24 ชั่วโมง
โดยในส่วนของก๊าซ NGV นั้น ปตท. ได้ลดราคาขายปลีกให้กับกลุ่มรถโดยสารสาธารณะที่มีบัตรส่วนลดในอัตรา 3 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาขายปลีกกลุ่มรถโดยสารสาธารณะอยู่ที่ 10.62 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น) เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2563 และคงราคา NGV สำหรับรถทั่วไปไว้ที่ 15.31 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ถึง 15 สิงหาคม 2563
มอบหน้ากากอนามัยช่วยเหลือประชาชน
อย่างไรก็ตามการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนของกลุ่ม ปตท. ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะนอกเหนือจากเรื่องพลังงานที่ถือเป็นเรื่องสำคัญแล้ว กลุ่ม ปตท. ยังได้ให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในรูปแบบต่างๆ อีก
ทั้งการส่งมอบหน้ากากอนามัยจากผ้า จำนวน 10,000 ชิ้นเพื่อดูแลผู้สูงอายุ ดำเนินการโดยชมรมพลังไทยใจอาสา กลุ่ม ปตท. มูลนิธิพลังที่ยั่งยืน และชุมชนเครือข่าย เพื่อมอบให้แก่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำไปกระจายแก่ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อช่วยดูแลผู้สูงอายุซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ความช่วยเหลือที่หลั่งไหลให้กับ ‘บุคลากรทางการแพทย์’
ขณะเดียวกัน กลุ่ม ปตท. ได้เห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นกำลังสำคัญในการรักษาผู้ป่วย จึงจัดตั้ง ‘คณะกรรมการความร่วมมือด้านกิจการเพื่อสังคม กลุ่ม ปตท. เพื่อสู้ภัย COVID–19’ เพื่อให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติงานแก่บุคลากรทางการแพทย์
โดยร่วมระดมสรรพกำลังกันในด้านงานวิจัย พัฒนา จัดหา และผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้เพียงพอ รวมถึงการจัดหาแอลกอฮอล์เพื่อสนับสนุนหน่วยงานด้านสาธารณสุขอย่างเร่งด่วนและเป็นรูปธรรม
คณะกรรมการเฉพาะกิจดังกล่าว ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน), บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) แบ่งภารกิจเป็น 7 กลุ่มงานหลัก ประกอบด้วย
- สนับสนุนเสื้อกาวน์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งผลิตจากเม็ดพลาสติกของกลุ่ม ปตท. กว่า 1 แสนชุด
- การผลิตหมวกอัดอากาศความดันบวก PAPR
- การผลิตเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเชื้อแบบแรงดันลบ เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อกว่า 100 เตียง แก่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เพื่อเป็นศูนย์ในการส่งต่อให้แก่โรงพยาบาลที่ขาดแคลน
- การพัฒนาห้องตรวจวินิจฉัยโรคแบบป้องกันเชื้อ
- การผลิตกล่องป้องกันเชื้อฟุ้งกระจาย สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ (Upper Body Shield Box) จำนวนกว่า 90 กล่อง ส่งมอบผ่านคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล
- การผลิตและสนับสนุน Face Shield ของจิตอาสากลุ่ม ปตท.
- สถาบันวิทยสิริเมธีร่วมกับโรงพยาบาลศิริราช และภาคีเครือข่าย วิจัยพัฒนาชุดตรวจเชื้อโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูงแบบการตรวจจับสารทางพันธุกรรม
ทั้งนี้ หลังจากกรมสรรพสามิตผ่อนผันให้โรงงานผลิตเอทานอลเพื่อจำหน่ายเป็นเชื้อเพลิง สามารถจำหน่ายเป็นแอลกอฮอล์เพื่อทำความสะอาดได้
ปตท. ถึงแม้ไม่มีโรงเอทานอลเป็นของตนเอง ก็ได้เร่งจัดหาแอลกอฮอล์เพื่อมอบให้แก่หน่วยงานทางการแพทย์ และโรงพยาบาลกว่า 170 แห่งทั่วประเทศ อาทิ หน่วยงานทางการแพทย์สังกัดกระทรวงสาธารณสุข วิทยาลัยแพทย์และกองทัพต่างๆ เพื่อกระจายให้แก่โรงพยาบาลและหน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ จำนวนกว่า 160,000 ลิตร
นอกจากนี้ ยังได้ทำการกระจายสู่ประชาชนอย่างทั่วถึงผ่านการแจกฟรีในรูปแบบแอลกอฮอล์เจล และจัดหาแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมาจำหน่ายในราคาต้นทุน ผ่านบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ณ สถานีบริการน้ำมัน อีกด้วย
และล่าสุด ปตท. ยังได้จัดหาแอลกอฮอล์ทางการแพทย์เพิ่มเติม สำหรับสนับสนุนโครงการพลังงานร่วมใจสู้ภัยโควิด-19 ร่วมกับกระทรวงพลังงานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อเข้าถึงประชาชนในท้องถิ่น ผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และสถานบริการสาธารณสุขชุมชนกว่า 9,863 แห่ง ทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน กลุ่ม ปตท. ได้มีการบริจาคเงินให้แก่โรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อนำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ยา เวชภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนโรงพยาบาลรามาธิบดีในการจัดซื้อแท็บเล็ต 50 เครื่องเพื่อการตรวจรักษาทางไกล (Tele–Medicine) และเป็นอุปกรณ์ประกอบการดูแลรักษาผู้ป่วยในหอผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19
เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน #สานพลังใจWeFightTogether
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์