- มัตชิดิโซ โมเอติ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำทวีปแอฟริกา แถลงถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแอฟริกาว่า แอฟริกาอาจเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดไวรัสแห่งใหม่ หลังมีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมกันมากกว่า 1,000 รายแล้ว โดยเชื้อไวรัสโคโรนาได้แพร่ระบาดมาในอัตราที่รวดเร็ว สืบเนื่องจากระบบสาธารณสุขที่ยังตํ่ากว่ามาตรฐาน และมักจะเกิดขึ้นในพื้นที่ห่างจากตัวเมือง
- พ.ร.ก. ตั้งกองทุนพยุงหุ้นกู้เอกชนมีผลบังคับใช้เป็นที่เรียบร้อย และชดเชยความเสียหายได้ไม่เกิน 4 หมื่นล้านบาท โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2563 และมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี เว้นแต่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาขยายเวลา กองทุนพยุงหุ้นกู้ดังกล่าว โดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและเศรษฐกิจ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันอาจทำให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้สูง
- จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ โดยวันนี้ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีกำหนดประกาศอัตราดอกเบี้ย (Loan Prime Rate) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี และเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับการปล่อยสินเชื่ออื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะประกาศออกมาที่ 3.85% ลดลง 0.20% ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย MLF ที่ปรับลดไปช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศเลื่อนนโยบายปรับเปลี่ยนค่าธรรมเนียม เพื่อทบทวนหลักเกณฑ์การคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมใหม่อีกครั้ง จากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในกลางปีนี้ เพราะเชื่อว่าในขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ให้ความสำคัญและให้ความช่วยเหลือลูกหนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนมีนาคมร่วงลง 11.7% (YOY) สาเหตุมาจากผลกระทบของการแพร่บาดของโควิด-19 ทั่วโลก ซึ่งสะท้อนความต้องการสินค้าที่ลดลงทั่วโลก ขณะที่ยอดนำเข้าในเดือนมีนาคมก็ ลดลงด้วย โดยติดลบ 5% ส่งผลให้ประเทศญี่ปุ่นเกินดุลการค้าในเดือนมีนาคมที่ระดับ 4.9 พันล้านเยน
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศหาแนวทางการเปิดเศรษฐกิจให้ได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนให้เข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง โดยหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นฟูในเร็วๆ นี้ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังมาตรการล็อกดาวน์ที่ทำให้ยอดผู้ติดโควิด-19 ลดลงและผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น โดยคาดหวังเศรษฐกิจจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้งในเร็วๆ นี้
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากอุปสงค์น้ำมันที่ลดลงและปริมาณน้ำมันในตลาดที่เพิ่มจนล้นตลาด ด้านราคาทองคำปรับตัวลงหลังนักลงทุนเริ่มคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นฟูเร็วๆ นี้ ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มเทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมา
สหรัฐฯ
- Dow 30 อยู่ที่ 24242.49 เพิ่มขึ้น 704.81 (2.99%)
- S&P 500 อยู่ที่ 2874.56 เพิ่มขึ้น 75.01 (2.68%)
- Nasdaq อยู่ที่ 8650.14 เพิ่มขึ้น 117.78 (1.38%)
ยุโรป
- DAX อยู่ที่ 10625.78 เพิ่มขึ้น 324.24 (3.15%)
- FTSE 100 อยู่ที่ 5786.96 เพิ่มขึ้น 158.53 (2.82%)
- Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 2888.3 เพิ่มขึ้น 75.95 (2.7%)
- FTSE MIB อยู่ที่ 17055.47 เพิ่มขึ้น 287.33 (1.71%)
เอเชีย
- Nikkei 225 อยู่ที่ 19897.26 เพิ่มขึ้น 607.06 (3.15%)
- S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5487.5 เพิ่มขึ้น 71.2 (1.31%)
- Shanghai อยู่ที่ 2838.49 เพิ่มขึ้น 18.56 (0.66%)
- SZSE Component อยู่ที่ 10527.99 เพิ่มขึ้น 57.2 (0.55%)
- China A50 อยู่ที่ 13116.19 เพิ่มขึ้น 170.13 (1.31%)
- Hang Seng อยู่ที่ 24380 เพิ่มขึ้น 373.55 (1.56%)
- Taiwan Weighted อยู่ที่ 10597.04 เพิ่มขึ้น 221.56 (2.14%)
- SET อยู่ที่ 1239.24 เพิ่มขึ้น 39.09 (3.26%)
- KOSPI อยู่ที่ 1914.53 เพิ่มขึ้น 57.46 (3.09%)
- IDX Composite อยู่ที่ 4634.82 เพิ่มขึ้น 154.21 (3.44%)
- BSE Sensex อยู่ที่ 31588.72 เพิ่มขึ้น 986.11 (3.22%)
- PSEi Composite อยู่ที่ 5789.97 ลดลง 0 (0%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 18.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.67 (-8.38%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ อยู่ที่ 28.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.42 (-1.47%)
- ราคาทองคำอยู่ที่ 1684.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -9.95 (-0.58%)
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters