วันนี้ (9 มีนาคม) ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Emergency Operations Center: EOC) ซึ่งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยกระดับเปลี่ยนศูนย์อำนวยความสะดวกให้บริการผู้โดยสารเป็น Emergency Operation Center เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประจำศูนย์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร โดยมีการประชุมร่วมกันทุกวัน เพื่อประสานงาน แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน และใช้ประโยชน์จากระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสาร นอกจากนี้ ได้ตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองแรกของผู้โดยสารขาเข้าที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง Concourse F โดยติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน และมีเจ้าหน้าที่วัดอุณหภูมิผู้โดยสารทุกเที่ยวบิน
อย่างไรก็ตาม ศักดิ์สยามยังได้กล่าวย้ำว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ โดยเพิ่มมาตรการตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุกลุ่มประเทศที่เป็นเขตโรคติดต่ออันตราย
ซึ่งผู้ที่เดินทางมาจากกลุ่มประเทศที่ต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้โดยสารจะต้องได้รับการตรวจจากแพทย์ และมีใบรับรองแพทย์ เพื่อยืนยันว่าไม่มีความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 รวมทั้งต้องทำ Exit Scan ตรวจวัดอุณหภูมิอีกครั้งก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งหากคนใดไม่สามารถแสดงใบรับรองแพทย์ได้ จะไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ ทั้งนี้ ในขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองเจ้าหน้าที่จะตรวจเช็กความถูกต้องของใบรับรองแพทย์อีกครั้ง
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. มีมาตรการคัดกรองผู้โดยสารเพื่อรองรับ และป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด จึงสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน และผู้ใช้บริการในการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 ได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์