- สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 ขยายตัวที่ 2.1% ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนหน้า แต่ยังสูงกว่าการเปิดเผยตัวเลขครั้งแรกซึ่งออกมาขยายตัวเพียง 1.9% ส่วนการบริโภคภายในขยายตัว 3.2% ด้านการลงทุนภาคเอกชนหดตัว 1.0% โดยการลงทุนภาคธุรกิจหดตัวถึง 2.3% ขณะที่การลงทุนที่พักอาศัยขยายตัว 4.6% หลังหดตัวมาแล้ว 6 ไตรมาสติดต่อกัน ส่วนการส่งออกขยายตัว 1.0% การนำเข้าขยายตัว 1.8% ขณะที่การลงทุนภาครัฐ ขยายตัว 1.7% ซึ่งมีส่วนขับเคลื่อนให้ GDP ขยายตัว 0.30%
- ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังทรงตัวต่ำกว่าระดับเป้าหมาย ดัชนีราคาการใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือนพฤศจิกายน ขยายตัว 1.5% (YoY) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.4% (YoY) ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE Price Index) เดือนพฤศจิกายน ขยายตัว 1.6% (YoY) เป็นไปตามคาด และต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าซึ่งขยายตัวที่ 1.7% (YoY)
- ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายน โดยคืนนี้สหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (New Home Sales) เดือนพฤศจิกายน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 735,000 หลัง แต่ลดลง 0.5% (MoM) ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน (Core Durable Goods Orders) เดือนพฤศจิกายน นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวที่ 0.1% (MoM) ด้านยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) เดือนพฤศจิกายน ถูกคาดว่าจะขยายตัวที่ 1.5% (MoM)
- จับตาตัวเลขส่งออก-นำเข้าจากศุลกากรไทยเดือนพฤศจิกายน วันนี้ไทยเตรียมเปิดเผยข้อมูลการส่งออกจากศุลกากร (Custom-Based Export Data) เดือนพฤศจิกายน คาดว่าจะหดตัว 4.5% (YoY) ส่วนข้อมูลการนำเข้าจากศุลกากร (Custom-Based Import Data) เดือนพฤศจิกายน คาดว่าจะหดตัวที่ 4.5% (YoY) เช่นเดียวกัน
- ติดตามการพิจารณาอนุมัติ 5G และการประชุม ครม. สัปดาห์นี้ ซึ่งการพิจารณาอนุมัติคลื่นความถี่ 5G ของ กสทช. จะมีขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคม ก่อนจะมีการนำไปประมูลในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ปีหน้า ขณะเดียวกันจะมีการประชุม ครม. ที่จะพิจารณาการเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่มาลงทะเบียน และอาจมีการเพิ่มเกณฑ์การพิจารณาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สรุปภาพรวมตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
- ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นและทำ New High อีกครั้งจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากสภาล่างของอังกฤษลงมติเห็นชอบกฎหมายเกี่ยวกับการแยกตัวออกจากยุโรปหรือ Brexit ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลและกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้ง
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น โดย เบเกอร์ ฮิวจ์ ผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ได้เพิ่มจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ด้านตลาดทองคำปรับตัวลงหลังตลาดหุ้นกลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมไปถึงการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมาบางส่วน
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 28455.09 เพิ่มขึ้น 78.13 (+0.28%)
- S&P 500 ปิดที่ 3221.23 เพิ่มขึ้น 15.86 (+0.49%)
- Nasdaq ปิดที่ 8924.96 เพิ่มขึ้น 37.74 (+0.42%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 13318.9 เพิ่มขึ้น 106.94 (+0.81%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7582.48 เพิ่มขึ้น 8.66 (+0.11%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3776.56 เพิ่มขึ้น 37.39 (+1%)
- FTSE MIB ปิดที่ 24003.64 เพิ่มขึ้น 294.7 (+1.24%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23816.63 ลดลง 48.22 (-0.2%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6816.3 ลดลง 16.8 (-0.25%)
- Shanghai ปิดที่ 3004.94 ลดลง 12.13 (-0.4%)
- SZSE Component ปิดที่ 10229.49 ลดลง 66.8 (-0.65%)
- China A50 ปิดที่ 14189.57 ลดลง 21.88 (-0.15%)
- Hang Seng ปิดที่ 27871.35 เพิ่มขึ้น 70.86 (+0.25%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 11959.08 ลดลง 59.82 (-0.5%)
- SET ปิดที่ 1572.92 ลดลง 0.59 (-0.04%)
- KOSPI ปิดที่ 2204.18 เพิ่มขึ้น 7.62 (+0.35%)
- IDX Composite ปิดที่ 6284.37 เพิ่มขึ้น 34.44 (+0.55%)
- BSE Sensex ปิดที่ 41681.54 เพิ่มขึ้น 7.62 (+0.02%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7773.12 เพิ่มขึ้น 119.18 (+1.56%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 60.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.81 (-1.32%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 66.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.5 (-0.75%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1,482.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง 2.35 (-0.16%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters