วานนี้ (11 พฤศจิกายน) ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) เปิดเผยรายงานยืนยันว่าอิหร่านได้กลับมาเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมสำหรับใช้ในการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์อีกครั้งภายในโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดินฟอร์โด เมืองกอม ทางภาคกลางของอิหร่าน โดยเริ่มเดินเครื่องตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (9 พฤศจิกายน) ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ 2015 ระหว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจที่ห้ามอิหร่านเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมที่โรงงานดังกล่าว ซึ่งสร้างขึ้นใต้ดินเพื่อป้องกันการโจมตีจากต่างชาติ
รายงานยังระบุว่า IAEA ตรวจพบอนุภาคยูเรเนียมในสถานที่ลับ ซึ่งอิหร่านไม่เคยแจ้งต่อ IAEA มาก่อน ขณะที่สำนักข่าว BBC รายงานข้อมูลจากเอกสารลับ ที่แม้จะไม่ระบุพิกัดชัดเจนของสถานที่ดังกล่าว แต่เชื่อว่ามาจากเขตเทอร์กุซาบัด ซึ่งเป็นจุดที่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เปิดเผยเมื่อปีที่ผ่านมาว่าเป็นคลังนิวเคลียร์ลับของอิหร่าน ซึ่งที่ผ่านมาทางการอิหร่านยืนยันว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นโรงงานทำความสะอาดพรมและไม่มีความลับใดๆ
อย่างไรก็ตาม อิหร่านยังไม่แสดงท่าทีต่อรายงานที่ออกมา ขณะที่ IAEA ยืนยันว่าการติดต่อพูดคุยระหว่างอิหร่านและ IAEA นั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่านประกาศจะทยอยยุติการปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงนิวเคลียร์ด้วยการกลับมาเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมอีกครั้งในโรงงานดังกล่าว เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อสหรัฐฯ และชาติมหาอำนาจ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจนำสหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ไปเมื่อปีที่ผ่านมา และรื้อฟื้นมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน
ขณะที่ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี 3 มหาอำนาจที่ยังอยู่ร่วมในข้อตกลงแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของอิหร่าน และเตือนว่าอาจส่งผลให้ความพยายามคลี่คลายความตึงเครียดในภูมิภาคนั้นยากขึ้น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: