ร้านลับ ‘บาร์ลับ’ ได้รับการพูดถึงเสียบ่อยๆ จนรู้สึกว่าความ ‘ลับ’ ได้กลายเป็นคำสวยหรูทางการตลาดที่โปรยให้ฟังหูไว้หู ทำเอาคนที่เคยไปมาก่อน หรือเหล่าฟู้ดดี้ บาร์ฮอปเปอร์หัวร้อนกันเป็นแถวกับคำว่า ‘บาร์ลับ’ ‘ร้านลับ’ ที่ไม่เห็นจะ ‘ลับ’ สมชื่อ หรือจริงๆ คุณแค่ไม่เคยสังเกตว่ามันอยู่ตรงนั้นมานานแล้วกันแน่
แต่ครั้งนี้กล้าพูดได้เต็มปากว่าเราจะพาไปบาร์ที่ทั้งลึกและลับ ที่เดินเองยังหลงเอง เพราะไม่คิดว่าทางเข้าบาร์จะอยู่ตรงนั้น คำใบ้แผ่นป้ายเดียวที่จะบอกก็คือ บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในอาคาร Metropole ซอยพร้อมศรี สุขุมวิท 39 จากนั้นเป็นหน้าที่คุณเองที่จะต้องเดินหาว่า Bar 335 ต้องเข้าทางไหนกันแน่
หาทางเข้าเจอแล้ว
The Vibe
ตัดภาพไปที่บาร์ หลังจากผลักประตูบานใหญ่ก็พบกับความมืด แสงเทียนสลัว แล้วเราก็เห็นเงาสลัวๆ ของบาร์เทนเดอร์ที่ยืนอยู่หลังบาร์หิน คุณเป้-ธรณ์ธัญย์ ศิริวิทยเจริญ กล่าวทักทายเรา
หากเคยไป Thaipioka และ Liberation น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับบาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้มีรอยสักที่แขนอันเป็นเอกลักษณ์คนนี้เป็นอย่างดี
คุณเป้-ธรณ์ธัญย์ ศิริวิทยเจริญ
จุดเริ่มต้นของ Bar 335 (บาร์ ทรีทรีไฟฟ์) เกิดจากความชื่นชอบญี่ปุ่นตั้งแต่เด็ก และเมื่อโตขึ้น คุณเป้เห็นว่าสิ่งหนึ่งที่ความเป็นญี่ปุ่นนำเสนอก็คือ ความเรียบง่าย การรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นจากองค์ประกอบเพียงไม่กี่อย่าง แต่ทำออกมาแล้วดูดีมีคุณภาพ เช่นเดียวกับอาหารญี่ปุ่น โดยเฉพาะโอมากาเสะซูชิทั้งหลาย จึงทำให้คุณเป้อยากทำบาร์เล็กๆ ที่นำเสนอค็อกเทลคุณภาพดีที่ทำจากเหล้าไม่กี่ตัว ส่วนผสมน้อยอย่าง แต่เมื่อจิบแล้ว สัมผัสได้ทันทีถึงความแตกต่างและคุณภาพคับแก้ว เขาจึงค่อยๆ กลั่นกรองประสบการณ์ ความรู้สึกนึกคิด และไอเดีย ให้ออกมาเป็น Bar 335 ที่ชายคนนี้ลงมือทำด้วยตัวเอง ตั้งแต่การออกแบบตัวร้านไปจนถึงคิดค็อกเทลเมนูที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แทบทุกวัน
บรรยากาศสลัวๆ ลึกลับน่าค้นหา
ความเป็นญี่ปุ่นที่เห็นจากบาร์นี้ นอกจากการเลือกใช้เหล้าและวัตถุดิบไม่กี่ชนิด อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นองค์ประกอบก็คือ บรรยากาศและการออกแบบร้านที่มินิมัล ตั้งแต่บาร์หินและโต๊ะไม้ มุมที่ลึกเข้าไปเป็นโซฟายาวหันหน้าเข้าหากันสำหรับแขกกลุ่มใหญ่ และโซฟายาวต่อเนื่องออกมาขนานและหันหน้าเข้าบาร์ เผื่อใครที่มาหลายคนแล้วอยากนั่งเมาท์แบบไม่ต้องเคอะเขินกันหน้าบาร์ และแม้ตัวร้านไม่ได้กว้างขวางมาก แต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัด ทางร้านออกแบบให้มีพื้นที่ว่างตรงกลางร้าน
ยกทั้งสวนมาใส่แก้ว
The Drinks
ค็อกเทลที่ Bar 335 แม้จะมีให้เลือกไม่มาก และหมุนเปลี่ยนไปเรื่อยเกือบทุกวัน แก้วที่ดื่มไปครั้งนี้ มาคราวหน้าอาจไม่อยู่แล้วก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆ คือ ทั้งเมนูนั้น ทุกแก้วอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ จนหลังจากที่นั่งฟังบาร์เทนเดอร์เป้เล่าถึงความเป็นมาของเครื่องดื่มแต่ละตัวอย่างสนุกสนาน น้ำที่คุณเห็นตรงหน้าก็อร่อยขึ้นทวีคูณ
New York Sour เวอร์ชันอัปเดต
เริ่มต้นด้วยดริงก์เบาๆ จิบง่าย เหมาะสำหรับเริ่มต้นค่ำคืนอันแสนยาวไกล New York Lemon Cream (380 บาท) แค่ชื่อก็ชวนให้นึกถึงขนมหวานเสียแล้ว ทั้งที่จริงๆ ค็อกเทลตัวนี้ทวิสต์มาจาก New York Sour หากแต่เปลี่ยนจากเบอร์เบินมาเป็นจิน และเติมมิติของรสชาติด้วยกรรมวิธี Clarification (หรือวิธีการทำให้ของเหลวมีความใส ที่เริ่มจะเห็นในวงการบาร์บ่อยขึ้นบ้างแล้ว เช่นที่ Tropic City, Liberation ฯลฯ)
คุณเป้ทำครีมด้วยการแยกชั้นนมให้ใสด้วยน้ำเลมอนจนได้เป็นเลมอนครีม จากนั้นผสมเหล้าเลมอน Limoncello อีกนิด แล้วท็อปด้วยไวน์แดง Cabernet Sauvignon แบบฟูลบอดี้ ทำให้มีความดรายแต่ยังคงกลิ่นอายฟรุตตี้บ้างเล็กน้อย แก้วนี้สีเหล้าแยกชั้นกันชัดเจนระหว่างสีขาวของเหล้าจินและเลมอนครีมด้านล่าง และสีแดงของไวน์แดงด้านบน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การจิบโดยไม่ต้องคนให้เข้ากัน ปล่อยให้ไวน์แดงไหลลงคอเข้าไปก่อน แล้วตามด้วยจินกับเลมอนครีม จิบแบบนี้แหละดีและเหมาะที่สุดแล้ว ถึงแม้แก้วนี้จะออกแนวเปรี้ยวหวาน แต่กลับเป็นรสชาติมิติใหม่ที่ยากจะอธิบาย นอกเสียจากคุณต้องมาลองจิบพิสูจน์ด้วยตัวเอง
หลายคนอาจจะสงสัยว่า Gin & Milk (ที่ไม่ใช่แบรนด์เสื้อผ้า) มันเข้ากันด้วยเหรอ เราอยากให้มาลองแก้วนี้ และไม่ต้องห่วงว่าใช้เหล้าจินดีๆ แล้วจะเสียของ เพราะนมไปกลบกลิ่น รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ คุณเป้ได้เพิ่มสมุนไพรหลายชนิดที่ให้กลิ่นโปรไฟล์เดียวกับจินเข้าไปในค็อกเทลแก้วนี้เรียบร้อยแล้ว
สวนสีเขียวจัดใส่แก้ว
ยังคงวนเวียนกับจินอีกสักแก้ว ครั้งนี้มาแบบเบสิกกันบ้าง กับ Green Garden (380 บาท) ที่ชวนให้นึกถึงดงดอกไม้และความฟรุตตี้ขององุ่นมัสคัต เริ่มตั้งแต่เหล้าจินที่คุณเป้เลือกใช้ ซึ่งมาจากเมืองน้ำหอมอย่างฝรั่งเศส ซึ่งเป็นจินที่อินฟิวส์กับผลองุ่นเขียว และยิ่งนำเหล้าไปแช่เย็นจัดก่อนรินใส่แก้ว ก็ยิ่งทำให้ตัวเหล้ามีบอดี้หนักแน่นกว่าปกติ จากนั้นผสมวอดก้าอินฟิวส์ดอกดาวเรืองเม็กซิกันจากอำเภอแม่ริมของเชียงใหม่ และดอกเฟนเนลที่มีความหอมและซ่าคล้ายลูกอมสมุนไพรแฮ็คส์ แล้วรินพรีเมียมโทนิกและโซดา แต่งแก้วด้วยแตงกวาฝาน ใบมินต์ญี่ปุ่น และดอกแพนซี่ ก่อนจิบแนะนำให้สังเกตสีและดมกลิ่นหอมสดชื่น จากนั้นจึงค่อยจิบทีละนิด แก้วนี้คู่ควรไปอยู่ในมือนักดื่มจินโทนิกอย่างมาก
Benton’s Old-Fashioned ใส่เบคอน!
มาที่สปิริตฟอร์เวิร์ดค็อกเทลสุดคลาสสิกอย่างโอลด์แฟชั่น ที่ไม่ได้เป็นแค่โอลด์แฟชั่นทั่วไป แต่มีความน่ากินพร้อมๆ กับความน่าดื่ม จะเรียกว่าเป็นรส Savory ก็คงไม่ผิด กับ Benton’s Old-Fashioned (440 บาท) ค็อกเทลตัวนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มี PDT (Please Don’t Tell) สปีกอีซี่บาร์ตัวท็อปจากนิวยอร์ก ที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่เครื่องดื่มสีอำพันแก้วนี้
เมนูเหล้าเบอร์เบินที่มีกลิ่นรมควันของเบคอน
จุดเด่นของ Benton’s Old-Fashioned คือการนำเบคอนมาเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลัก (ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิดหรอก!) เริ่มตั้งแต่การนำไขมันจากเบคอนไปอินฟิวส์กับเหล้าเบอร์เบิน จากนั้นซูส์วีด์และฟรีซให้ไขมันแยกชั้น จนกระทั่งได้เหล้าเบอร์เบินที่มีกลิ่นรมควันของเบคอนอยู่ด้วย แล้วค่อยผสมเมเปิลไซรัป และปิดท้ายด้วยเบคอน พร้อมเบิร์นไฟให้หอมกรุ่น ก่อนส่งต่อไปที่มือคุณ จิบโอลด์แฟชั่นสลับเคี้ยวเบคอนรมควัน ให้ตายเถอะ แค่ได้กลิ่นเบคอนไหม้นิดๆ ก็ชักจะหิวแล้วสิ
ค่ำนี้มานั่งคุยกับคุณเป้กันไหมล่ะ
What You Should Know:
- ทำไมต้อง ‘335’ ? ก็เพราะว่าเลข 335 มาจากเพลง Room 335 ของนักกีตาร์ระดับตำนาน แลร์รี คาร์ลตัน ซึ่งคุณเป้ชอบเป็นชีวิตจิตใจ
- Benton ที่อยู่หน้าชื่อโอลด์แฟชั่นค็อกเทล เป็นชื่อแบรนด์เบคอนจากอเมริกา ซึ่ง PDT ใช้เบคอนตัวนี้ในการทำค็อกเทล แต่เนื่องจากหาในไทยไม่ได้ ทางร้านจึงใช้เบคอนรมควันแทน
- ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถ เพราะในโครงการมีที่จอดฟรี และจอดได้หลายคันด้วย
Bar 335
Open: เปิดบริการวันจันทร์-เสาร์ เวลา 19.00-02.00 น.
Address: Metropole ซอยพร้อมศรี สุขุมวิท 39 กรุงเทพฯ
Budget: 500-1,500 บาท
Contact: 09 2545 6419
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล