ช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยน่าหวั่นไหว ตั้งแต่ดัชนี SET ลงไปต่ำ 1,600 จุด ราคาหุ้นอย่างกลุ่มธนาคารก็ปรับตัวลดลง จนมาถึงหุ้นกลุ่มโรงงานไฟฟ้าที่ราคาปรับลงเช่นกัน แต่กลุ่มนี้ยังน่าลงทุนไหม?
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าราคาดิ่งลงเพราะอะไร?
ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ฝ่ายวิจัย ASP) ระบุว่า วันที่ 29 ตุลาคม 2562 หุ้นกลุ่มโรงงานไฟฟ้าหลายตัวราคาลดลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น
- บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ลดลง 8.2%
- บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ลดลง 4.9%
- บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ลดลง 3.5%
- บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ลดลง 3.2%
- บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ลดลง 3.2%
- บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ลดลง 3.0%
สาเหตุหลักมาจากแรงเทขายเพื่อทำกำไร หลังจากตลอดปี 2562 หุ้นกลุ่มนี้ได้รับความสนใจจากตลาดฯ ซึ่งมาจากความคาดหวังการเติบโตของกำไร และเทรนด์การลงทุนในหุ้น Domestic เพื่อเลี่ยงผลกระทบจากสงครามทางการค้า ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่น
ทั้งนี้ หากดูผลตอบแทนหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าตั้งแต่ต้นปี 2562 เพิ่มขึ้นชัดเจน เช่น GULF พุ่งขึ้น 102%, BGRIM เพิ่มขึ้น 84%, RATCH บวก 50%, EGCO บวก 46%, GPSC บวก 44% และ CKP บวก 26% ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเมื่อปรับขึ้นแรง จะทำให้เกิดการปรับฐาน (ราคาหุ้นปรับลดลง) เหมือนที่หุ้นกลุ่มนี้ราคาลดลงในวันที่ 29 ตุลาคม 2562
ASP แนะ ลงทุน GUNKUL – EA
ฝ่ายวิจัยฯ คัดหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่น่าลงทุน ซึ่งเป็นหุ้นที่มี Upside สูง ราคายัง Laggard (หุ้นที่ราคายังไม่ปรับขึ้นเหมือนหุ้นตัวอื่น) ในกลุ่มฯ และแนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปียังเติบโตได้ดีคือ GUNKUL และ EA
GUNKUL ราคาเหมาะสม 3.6 บาทต่อหุ้น เป็นราคาหุ้นมี Upside เกือบ 25% ในขณะที่ระยะสั้นมีปัจจัยบวก 2 ประเด็น คือ
- คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/62 อยู่ที่ 850 ล้านบาท เติบโต 94.5% จากไตรมาสก่อนหน้า กำไรมาจากโรงไฟฟ้าพลังลมรวม 170 MW ที่ในปีนี้ได้รับผลบวกจากพายุหลายลูก ทำให้แรงลมสูงกว่าปกติเกือบตลอดทั้งไตรมาส
- บริษัทฯ กำลังเจรจาซื้อโรงไฟฟ้าโซลาร์เวียดนามที่ COD แล้ว ราว 60 MW ซึ่งจะรับรู้รายได้ได้ทันที คาดจะมีความชัดเจนในเดือนพฤศจิกายนนี้
EA ราคาเหมาะสม 56 บาท จากสถิติ 5 ปีย้อนหลัง พบว่า ในเดือนพฤศจิกายน ราคาหุ้น EA จะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 4.19% และให้ผลตอบแทนเป็นบวก 4 ใน 5 ปี
ขณะที่คาดว่ากำไรครึ่งปีหลังจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากครึ่งปีแรก ส่วนไตรมาส 3/62 คาดว่ากำไรสุทธิอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เติบโต 7.2% จากไตรมาสก่อนหน้า กำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจไฟฟ้าพลังลมรวม 385 MW รับผลบวกจากฤดูมรสุม และการรับรู้โรงไฟฟ้าลมหนุมานเต็มไตรมาส
ราคาหุ้น EA ที่ลดลงมาจาก 2 ประเด็น ได้แก่
- ข่าวลือว่า สหกรณ์แท็กซี่ยกเลิกการจองรถยนต์ไฟฟ้าของ EA ทั้ง 3,500 คัน ซึ่งผู้บริหารได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว และยืนยันว่าสหกรณ์ยังจองซื้อ
- โรงงานแบตเตอรี่เฟส 1 กำลังการผลิต 1 GWh มีโอกาสเลื่อน COD ราว 1 ไตรมาส จากเดิมที่มีแผน COD ในช่วงครึ่งแรกปี 2563 เพราะปัจจุบันโรงงานอยู่ระหว่างการก่อสร้างในพื้นที่ที่จะทำนิคมฯ ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียว (พื้นที่เกษตรกรรม) แต่อยู่ระหว่างการขอยื่นเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีม่วง (พื้นที่อุตสาหกรรม)
โดยต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อน ซึ่งยังไม่สามารถระบุเวลาได้ชัดเจนว่าเมื่อไร อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถเปลี่ยนสีพื้นที่ได้ EA ก็มีแผนย้ายโรงงานมายังนอกพื้นที่นิคมฯ ซึ่งจะทำให้เกิดความล่าช้าข้างต้น
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล