กว่า 7 ปีที่ ‘แกร็บ’ โลดแล่นอยู่บนถนน Ride-Hailing จากจุดเริ่มต้นที่สิงคโปร์ ขยายไปสู่อินโดซีเนีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม พม่า กัมพูชา และไทย จากบริการเรียกรถแตกแขนงไปสู่บริการ เรียกรถมอเตอร์ไซค์ ส่งพัสดุ อาหาร ไปจนถึงบริการด้านการเงิน แกร็บขยายบริการหลากหลายจนเราคาดไม่ถึง
วันนี้ (24 กันยายน) ณ โรงแรมเวสทิน จาการ์ตา กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย แกร็บได้ออกรายงานผลลัพธ์ทางสังคมเล่มแรก โดยระบุว่า แกร็บได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปราว 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.7 แสนล้านบาท ในระยะเวลา 12 เดือน จนถึงเดือนมีนาคม 2562 โดยผลการคำนวณนี้ได้รับการรับรองจากบริษัทตรวจสอบบัญชี KPMG ตามกระบวนการที่ตกลงกันไว้
ผู้ประกอบการขนาดย่อมกว่า 9 ล้านราย หรือราว 1 ใน 70 คนของประชากรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีรายได้เพิ่มขึ้นผ่านแพลตฟอร์มแกร็บ ทั้งจากการเป็นผู้ขับขี่ ผู้ส่งของ ร้านค้า และตัวแทน ซึ่ง 21% ของผู้ขับขี่แกร็บ ไม่เคยทำงานมาก่อน ขณะที่อีก 31% ของพาร์ตเนอร์ตัวแทน ไม่เคยมีรายได้ก่อนเข้าร่วมตัวแทนแกร็บ-คูโด้ (Grab-Kudo)
รายงานนี้ได้เปิดเผยข้อมูลอีกว่า แกร็บช่วยพัฒนาการเข้าถึงบริการทางการเงินและการจ่ายเงินแบบดิจิทัล ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2555 โดยช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กจำนวน 1.7 ล้านราย เปิดบัญชีธนาคารบัญชีแรกได้สำเร็จ ที่สำคัญยังได้เข้ามาช่วยผลักดันภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการก้าวสู่อนาคตสังคมไร้เงินสด โดยมีผู้ใช้เงินดิจิทัลมากกว่า 9 เท่าบนแกร็บ เมื่อเทียบกับอัตราการทำธุรกรรมไร้เงินสดทั่วประเทศทั้งหมด
Grab for Good แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
การมาอินโดนีเซียของ THE STANDARD ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ใจความสำคัญของการมาเยือนประเทศที่ธุรกิจของแกร็บใหญ่ที่สุดในภูมิภาค คือการเข้าร่วมรับฟังการประกาศกลยุทธ์เพื่อสังคม ‘Grab for Good แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า’
แอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ ระบุว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกภายในปี 2573 แต่ยากจะปฏิเสธความจริงที่ว่า ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงโอกาสความสำเร็จในการเติบโตของภูมิภาคนี้ด้วย
หากภาคเอกชนร่วมกันสร้างโปรแกรมสำหรับชุมชนในแต่ละประเทศ เทคโนโลยีจะเป็นสิ่งที่สามารถเอื้อมถึงได้สำหรับหลายคน นอกจากนี้ทักษะการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ยังจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากขึ้น
“แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่าคือ การสร้างแพลตฟอร์มที่ทั่วถึง และเป็นพันธกิจของเราในการสร้างผลลัพธ์ในทางบวกและยั่งยืนในประเทศที่เรากำลังดำเนินธุรกิจอยู่”
(ที่ 2 จากซ้าย) แอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ
ภายใต้ ‘แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ วางเป้าหมายที่ต้องการบรรลุภายในปี 2568 หรืออีก 5 ปีต่อจากนี้ จำนวน 3 ข้อ ได้แก่
1. พัฒนาการมีส่วนร่วมและทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล: โดยแกร็บตั้งเป้าที่จะส่งมอบทักษะความเข้าใจ รวมถึงการเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้กับประชาชนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวน 3 ล้านคน ภายในปี 2568 ด้วยการร่วมมือกับรัฐบาล บริษัทเอกชน และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
2. ส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดย่อมและขนาดเล็ก: แกร็บมุ่งมั่นที่จะช่วยธุรกิจดั้งเดิมและร้านค้าขนาดเล็กกว่า 5 ล้านแห่ง ในการใช้เทคโนโลยีมาประยุกต์เข้ากับขั้นตอนและกระบวนการทำงาน เพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการจัดการค่าใช้จ่ายและเพิ่มการผลิต
3. เสริมสร้างแรงงานที่พร้อมก้าวสู่อนาคต: แกร็บมีแผนการจะให้การอบรมแก่นักศึกษาจำนวน 20,000 คน ผ่านโครงการค้นหาผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยี
เริ่มต้นด้วย 2 โครงการ พัฒนาทักษะเทคโนโลยี และ Break the Silence
เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ แกร็บประกาศเปิดตัวโครงการหลัก 2 โครงการ ได้แก่
1. การอบรมเพื่อพัฒนาทักษะ รวมถึงความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลระหว่างแกร็บและไมโครซอฟท์ โดยจะมีการฝึกฝนนักศึกษาทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ทางไมโครซอฟท์จะให้ข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม รวมถึงหลักสูตร แพลตฟอร์มการเรียนรู้ และประกาศนียบัตร
สนับสนุนให้พาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่สามารถเข้าเรียนหลักสูตรพัฒนาทักษะออนไลน์ของไมโครซอฟท์ได้ผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ โดยจะเริ่มเปิดตัวด้วยภาษาอังกฤษในแกร็บอคาเดมี ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอบรมออนไลน์ในแอปพลิเคชันแกร็บ ก่อนที่จะเปิดตัวภาษาอื่นๆ ปีหน้า และปูทางให้ผู้ขับขี่สามารถทำงานในสายเทคโนโลยี โครงการทดลองแรกจะเริ่มในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะเพิ่มทักษะให้กับพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่จำนวน 100 คน โดยจะเริ่มฝึกอบรมกลุ่มแรกในเดือนมิถุนายนปีหน้า
2. โครงการ ‘Break the Silence’ ที่เป็นโครงการระดับภูมิภาค ซึ่งเปิดตัวที่มาเลเซียในปี 2561 โดยได้ช่วยให้ผู้ขับขี่ที่หูหนวกและมีอุปสรรคทางการได้ยินมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการพูดคุยกับผู้ขับขี่ แกร็บได้พัฒนาฟีเจอร์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ได้แก่ ข้อความแจ้งเตือน เพื่อช่วยแจ้งให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทราบว่ากำลังใช้บริการจากพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่ที่หูหนวกอยู่, แชตสดผ่านแอปพลิเคชันแกร็บ, แผ่นป้ายสื่อสารบนรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ และจัดการอบรมและจัดทำอุปกรณ์ช่วยสื่อสารขณะเดินทาง
ภายในงานมีล่ามภาษามือมาแปลให้กับผู้พิการทางการได้ยินที่เข้าร่วมด้วย
แกร็บวางแผนจะขยายโครงการ Break the Silence ไปยังอินโดนีเซียและสิงคโปร์ รวมถึงการพัฒนาโครงการในมาเลเซียและไทยที่กำลังดำเนินการอยู่ โดยแกร็บมีพาร์ตเนอร์หูหนวกมากกว่า 500 คน บนแพลตฟอร์ม และวางแผนที่จะเพิ่มจำนวนอีก 2 เท่าภายในปีต่อมา
เพื่อรองรับความต้องการของผู้พิการ แกร็บเปิดตัว GrabGerek บริการการเดินทางสำหรับผู้พิการโดยเฉพาะในอีก 2 เมืองของอินโดนีเซีย โดย GrabGerek จะเปิดตัวในเมืองเมดานและเมืองเซอมารังในเดือนธันวาคมปีนี้
อย่างไรก็ตาม แกร็บได้วางแผนที่จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในอนาคต รวมถึงป้ายแขวนบนยานพาหนะที่ระบุว่า พาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่เป็นคนหูหนวก ในปัจจุบันผู้โดยสารจะได้รับการแจ้งผ่านแกร็บแชต ปิดระบบการโทรสำหรับพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่ที่หูหนวกหรือบกพร่องทางการได้ยิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดต่อจากการโทร. และคู่มือการสื่อสารกับพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่ที่หูหนวกในแอปพลิเคชัน ที่จะแนะนำวิธีการสื่อสารกับพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่ที่หูหนวก
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล