ใกล้วันศุกร์ทีไรก็ไม่รู้จะนัดเพื่อนไปไหนกันดี โยนคำถามเข้าไลน์กรุ๊ปก็มักจะได้คำตอบว่า “ที่ไหนก็ได้” แต่พอเอาเข้าจริง เสนอร้านไปก็อ้างสารพัดเหตุผลเพื่อที่จะเท บอกไปยาก ไม่ถูกปากบ้าง ไม่เก๋พอ ไกลบ้าง ของกินแพง ฯลฯ จะอะไรก็ตามแต่ แต่เราอยากชวนคุณมาเยือนร้านกินดื่มสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์น ราคาดี มีที่จอดรถ แถมยังไม่ไกลจากบีทีเอส ถ่ายรูปสวย และบรรยากาศดี ให้เป็นตัวเลือกในการแฮงเอาต์แบบเพื่อนก็ไม่ ‘ติด’ ครั้งต่อไป
สีสันสดใสชวนกระตุกต่อมหิวภายในร้าน
The Vibe
Next Station เพลินจิต จากทางออกที่ 3 เดินไปถึงร้าน ใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที จากฟุตปาธและความวุ่นวายบนท้องถนนในย่านเพลินจิต เมื่อเดินเข้าซอยนายเลิศแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแรก ก็เหมือนวาร์ปมาอยู่ตรอกเล็กๆ ในเกาหลีญี่ปุ่นอย่างไรอย่างนั้น เบื้องหน้าเป็นคอนโดฯ สูงเสียดฟ้าจนดูเหมือนป่าคอนกรีต ส่วนขวามือเป็นตึกแถวทาวน์โฮมเรียงรายไปจนสุดซอย เราสะดุดตากับบ้านหลังหนึ่งที่ด้านหน้าเต็มไปด้วยพุ่มไม้ พื้นที่นั่งสูบบุหรี่ ทางเข้าบ้านที่ลาดชันและโค้งลู่ไปกับผนังดินอัด
เลือกมุมเหมาะแล้วนั่งเมาท์กันได้เลย
บ้านหลังนี้คือที่ตั้งของ Bambino (แบมบิโน) ร้านกินดื่มสไตล์โมเดิร์นญี่ปุ่นที่ผสมผสานวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นกับตะวันตกเข้าด้วยกัน ท่ามกลางบรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในภูเขา กำแพงดินอัดที่สั่งทำเฉพาะให้ความรู้สึกว่าร้านแห่งนี้จู่ๆ โผล่มาในใจกลางหุบเขา ด้วยเลเยอร์ของกำแพงที่มีลวดลายธรรมชาติสวยงาม สอดรับกับการตกแต่งด้วยโทนสีไม้และสีทอง รวมถึงสีสันสดใสทั้ง 12 เฉดบนพื้น ที่ โชกุล หนึ่งในหุ้นส่วนและผู้ร่วมก่อตั้งร้านเล่าให้ฟังว่า ตั้งใจทำให้มีสีสดใสเหมือนทับทิมที่ซ่อนตัวอยู่ในชั้นหินบนภูเขา
บรรยากาศเป็นกันเองในร้าน
ด้วยความที่ร้านมีพื้นที่ไม่มาก ทุกมุมในร้านจึงได้รับการใช้สอยอย่างเต็มที่ โต๊ะเก้าอี้ถูกจัดเรียงเป็นสองฝั่งซ้ายขวา และมีมุมที่เว้าออกหน้าร้านสำหรับก๊วนเพื่อนไซส์กลางได้นั่งเมาท์มอยกันเต็มที่แบบไม่ต้องเกรงใจใคร ด้านในสุดกลางร้านเป็นค็อกเทลบาร์และชั้นวางเหล้าที่ดูผ่านๆ เหมือนวางเหล้าอยู่บนชั้นหิน ส่วนใครที่สูบบุหรี่ก็มีมุมที่นั่งในสวนเล็กๆ หน้าร้าน
แม้จะวางตัวว่าเป็นร้านกินดื่มแนวญี่ปุ่น แต่ Bambino ก็ไม่ใช่ร้านอิซากายะที่จะมีเสียงตะโกนโหวกเหวก หรือกับแกล้มญี่ปุ่นจ๋าอะไรขนาดนั้น เพราะเกือบทุกเมนูมีกลิ่นอายตะวันตกผสมผสาน โดยเฉพาะการเล่นกับวัตถุดิบทั้งผักและเนื้อสัตว์ อีกทั้งใส่ใจรายละเอียดปลีกย่อยที่ทำให้การรับประทานอาหารคู่กับเครื่องดื่มมีความอร่อยและน่ากินยิ่งขึ้น
Wagyu Sando แสนจะชุ่มฉ่ำ ห้ามพลาด
The Dishes
หากคุณเป็นสายไฮบอล คงไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง เตรียมสั่งกับแกล้มมากินเล่นกันได้ แนะนำ B.F.G. Chicken Skin (120 บาท) เมนูหนังไก่ทอดหน้าตาธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะเจ้าหนังไก่เพื่อนยากนั้นถูกต้มจนไขมันหลุดล่อนออกจากหนัง จากนั้นนำหนังไก่ไปทอด แล้วย่างบนเตาถ่านปิดท้าย ทำให้มีความกรุบกรอบ ไม่อมน้ำมัน บีบเลมอนแล้วหยิบกินเล่นได้เพลินที่สุด หรือถ้าจะแกล้มเหล้า ขอบอกไว้ก่อนว่ายิ่งกินก็ยิ่งกระหายเครื่องดื่มเย็นๆ เราเตือนแล้วนะ
ปลา Miso-Honey Black Cod และ B.F.G. Chicken Skin ที่อร่อยจนลืมไดเอต
เมนูถัดมา French Beans Tempura (180 บาท) หรือเทมปุระถั่วแขก ทวิสต์ไอเดียมาจากเฟรนช์ฟรายส์ แต่เป็นการชุบแป้งทอดแบบเทมปุระ จิ้มกินกับซอสแอนโชวีมาโย จะช่วยเพิ่มรสชาติให้ดียิ่งขึ้น หรือจะหนักท้องขึ้นมาอีกหน่อยกับ Grilled Ox Tongue (280 บาท) ลิ้นวัวย่าง เชฟคัดเฉพาะส่วนปลายลิ้น ซึ่งให้สัมผัสนุ่มเด้งเป็นที่หนึ่ง แนะนำให้จิ้มเกลือกับวาซาบิก่อนคีบเข้าปาก
Wagyu Sando ที่ไม่ต้องบินไปกินไกลถึงญี่ปุ่น
มาถึงไฮไลต์ประจำร้านอย่าง Wagyu Sando (550 บาท) แซนด์วิชทอดไส้เนื้อวากิวสีแดงฉ่ำ เกล็ดขนมปังกรอบๆ กับเนื้อขนมปังนมนุ่มๆ ช่างเข้ากับเนื้อวากิวระดับมีเดียมแรร์ ชวนแก้ขัดสำหรับใครที่อยากไปลองชิมเมนูคล้ายกันนี้ที่ร้านดังในญี่ปุ่นได้ไม่เลวเลย
Grilled Ox Tongue ลิ้นวัวย่างที่ให้สัมผัสนุ่มเด้ง จิ้มเกลือกับวาซาบิ
นอกจากเมนูเนื้อ ก็มีปลาจินดาระหรือปลาคอด ที่นำมาทำเป็น Miso-Honey Black Cod (650 บาท) ผ่านกรรมวิธีหมักเนื้อปลากับมิโสะและน้ำผึ้ง ก่อนที่จะนำไปย่างบนเตาถ่านจนกระทั่งชิ้นปลาส่งกลิ่นหอมน้ำผึ้งไปทั่วทั้งโต๊ะ จะกินพร้อมข้าวสวยให้เป็นเหมือนเมนคอร์ส หรือแย่งกันจิ้มกินเป็นกับแกล้มเพื่อสุขภาพก็ดีไม่แพ้กัน
จิบเครื่องดื่มเย็นๆ กันก่อน
The Drinks
นอกจากจะมีวิสกี้อย่างไฮบอล เบียร์ และไวน์ ทางร้านยังมีเมนูค็อกเทลสูตรเฉพาะให้สั่งมาลองจิบคู่กับอาหาร General Farmer (340 บาท) ค็อกเทลเบสด้วยวอดก้าที่อินฟิวส์กับใบโรสแมรี ผสมเหล้าหวานแอปริคอต และน้ำเชื่อมลูกเกด ได้รสชาติหอมหวาน แล้วตัดหวานด้วยน้ำมะนาวอีกทีหนึ่ง
General Farmer กลิ่นหอมยั่วยวน
Aka Zumi (320 บาท) แก้วนี้มีความโดดเด่นตรงที่ขอบแก้วข้างหนึ่งใส อีกข้างหนึ่งดำ เพราะถูกเคลือบด้วยผงถ่าน สำหรับเหล้าสีแดงคือเหล้ารัมอินฟิวส์กับบีทรูท เหมาะสำหรับจิบเพลินๆ ตลอดคืน
Maxi Miner และ Aka Zumi
หากชอบกลิ่นสมุนไพร ขอเชิญลอง Maxi Miner (340 บาท) ค็อกเทลในกระป๋องโลหะที่เบสด้วยเหล้าเตกีลาอินฟิวส์สับปะรด ในแก้วมีส่วนผสมของเหล้าคอร์เดียลตะไคร้ ขิง และน้ำมะนาว จิบแล้วสดชื่น หายเหนื่อยจากงานแน่นอน
What You Should Know
- การเดินทางมาร้าน เราแนะนำให้ขึ้นบีทีเอสมาลงสถานีเพลินจิต มองหาทางออกที่ 3 แล้วเดินเข้าซอยนายเลิศอีกไม่ถึง 2 นาที แต่ถ้าจะขับรถมา สามารถจอดได้ที่ตึก Ploenchit Condominium แล้วเดินมาอีกราว 150 เมตร ก็ถึงแล้ว
Bambino
Open: เปิดวันอังคารถึงอาทิตย์ เวลา 17.00-24.00 น.
Address: ซอยนายเลิศ ถนนเพลินจิต ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ
Budget: 500-1,500 บาท
Contact: โทร. 09 7028 1493
Website: www.facebook.com/bambino.bkk
Map:
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า