×

ประวิตร เชื่อ ‘ผบ.ทบ.’ เจตนาดี อยากเห็นบ้านเมืองสงบ ชี้ตำแหน่งนี้ต้องโปรดเกล้าฯ ล่ารายชื่อถอดถอนไม่มีระเบียบรองรับ

โดย THE STANDARD TEAM
05.04.2019
  • LOADING...
ประวิตร วงษ์สุวรรณ

วันนี้ (5 เม.ย.) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ‘พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์’ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) หลังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมือง เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมาว่า ผบ.ทบ. เจตนาดี อยากให้บ้านเมืองสงบ ไม่มีความขัดแย้ง ไม่อยากให้คนที่มีความคิดรุนแรงเลิกคิด และเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้กำลังใจ ผบ.ทบ.

 

ส่วนการตั้งแคมเปญล่ารายชื่อถอดถอนผู้บัญชาการทหารบก พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ออกจากตำแหน่งผ่าน www.change.org นั้น พล.อ. ประวิตร ยืนยันว่า การปลดหรือย้ายผู้บัญชาการทหารบกเป็นเรื่องของกระทรวงกลาโหม เป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา และต้องเป็นการโปรดเกล้าฯ พร้อมย้อนถามว่า การล่ารายชื่อถอดถอนผู้บัญชาการทหารบกมันมีระเบียบหรือเปล่า เพราะเรื่องนี้ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เป็นเรื่องของกฎระเบียบและผู้บังคับบัญชา

 

ขณะที่ พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การแสดงออกของผู้บังคับบัญชา ในความพยายามปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของหน่วยงานหรือองค์กรและบุคลากรหน่วยงาน จากการถูกให้ร้ายด้วยรูปแบบต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นวิถีทางธรรมชาติสากล ตามคุณลักษณะของผู้นำ

    

ส่วนเรื่องการสร้างโหวตให้ลงชื่อถอดถอนผู้บัญชาการทหารบกออกจากตำแหน่งนั้น มองว่าเป็นเพียงเทคนิคเก่า ที่หลังๆ ถูกนำมาใช้เพื่อการเมือง อาจหวังให้มีผลในแง่จิตวิทยา ซึ่งคนส่วนใหญ่คงรู้ทันและมองออก ไม่สามารถชี้วัดอะไรได้จริง

 

พ.อ. วินธัย มองว่า หลังๆ วิธีนี้เป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งของการเมือง ที่หวังผลให้เกิดความแตกแยกทางอ้อม ตั้งมาเป็นประเด็นลอยๆ ไม่ระบุรายละเอียด ที่สำคัญผลนั้นก็ไม่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดได้จริง  

 

ลักษณะนี้จึงเป็นเพียงโหวตเทียมเพื่อการเมือง หรือก็แค่พยายามใช้เป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อแสดงความเกลียดชังไม่พอใจกันแบบซ่อนรูปมา

     

เพราะการที่จะอ้างหยิบยกว่ามีเหตุมาจากข้อมูลการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของท่านผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเมื่อดูแล้วก็ยิ่งไม่สมเหตุสมผลเข้าไปใหญ่ เพราะเนื้อหาโดยรวมที่พอสรุปมาได้มีอยู่ 6-7 ประเด็น ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้วก็จะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่จะส่งผลไม่ดีต่อสังคมหรือประเทศชาติเลย ได้แก่

 

1. การยืนยันว่าทหารไม่ได้ทำงานการเมือง แต่พร้อมทำงานเพื่อพิทักษ์รักษาปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และจะอยู่เคียงข้างประชาชนอย่างแท้จริง

 

2. ยืนยันประเทศเพื่อนบ้านเข้าใจสถานการณ์การเมืองในประเทศ พร้อมให้ความร่วมมือ

 

3. ยอมรับว่าปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียเป็นสื่อที่ทรงพลัง จึงทำให้เกิดปัญหาพวกข่าวปลอมทางโซเชียลมีเดียจนเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

 

4. ขอให้ทุกฝ่ายยอมรับในกฎกติกา และพยายามอย่านำวาทกรรมที่ทำให้เกิดความแตกแยกมาตอกย้ำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศ

 

5. หากใครทำผิดควรยอมรับ และเข้าต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม

 

6. ขอให้รักกันเถิด ฝากถึงคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ไปศึกษาจากต่างประเทศมา ควรทำความเข้าใจการปกครองแบบไทยที่เป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมุ่งหวังให้คนไทยมารักสามัคคีกัน

 

7. ยืนยันไม่ว่าพรรคการเมืองใด ขั้วการเมืองฝ่ายใดได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมยอมรับกติกา เพราะกองทัพเป็นกองทัพของประชาชน

 

ซึ่งทั้งหมดที่ยกมาดังกล่าวนั้นจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีกับส่วนรวมและประเทศชาติได้อย่างไร ทำให้เชื่อว่ากิจกรรมดังกล่าวจึงน่าจะเป็นเรื่องของการเมืองเป็นหลัก

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X