เมื่อวานนี้ (11 มี.ค.) สภาครองเกรสของเวเนซุเอลามีมติรับรองและประกาศสถานะเตือนภัยระดับชาติ ตามคำร้องขอของ นายฮวน กุยโด ผู้นำฝ่ายค้านที่ประกาศตนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีรักษาการ หลังกระแสไฟฟ้าในหลายพื้นที่ทั่วประเทศดับเข้าสู่วันที่ 5 ส่งผลให้สถานการณ์ภายในประเทศวิกฤตเพิ่มมากขึ้น
ถึงแม้ว่ากระแสไฟฟ้าจะเริ่มทยอยกลับมาใช้ได้แล้วในกรุงการากัส เมืองหลวงของประเทศ แต่ประชาชนหลายล้านคนทั่วประเทศยังคงประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า น้ำ และอาหารอย่างหนัก ปัญหาไฟฟ้าดับส่งผลให้อาหารที่แช่ไว้ในตู้เย็นเน่าเสีย โรงพยาบาลไม่สามารถดำเนินการรักษาหรือผ่าตัดช่วยชีวิตคนไข้ได้ ประชาชนจำนวนมากต้องหาน้ำดื่มจากท่อน้ำทิ้งเพื่อประทังชีวิต
หลัง ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ที่ยังอยู่ในอำนาจและกุมกองทัพและสถาบันสำคัญของชาติไว้ คัดค้านการรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา โดยมองว่า การช่วยเหลือดังกล่าว อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโค่นล้มตนออกจากอำนาจ โดยมีพันธมิตรอย่างรัสเซียและจีนให้การสนับสนุน
โดยรัฐธรรมนูญให้สิทธิ์ประธานาธิบดีในการประกาศสถานะดังกล่าว ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤต แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การประกาศสถานะเตือนภัยนี้จะส่งผลหรือช่วยแก้ไขปัญหาที่เวเนซุเอลากำลังเผชิญหน้าอยู่อย่างไร
ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการร่างกฎหมาย นายกุยโดเสนอให้เวเนซุเอลายุติการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศพันธมิตรของนายมาดูโรอย่างคิวบา เนื่องจากการลดราคาน้ำมันดังกล่าวให้คิวบาตลอดเกือบ 20 ปี ทำให้ประเทศสูญเสียเม็ดเงินมหาศาลในการเลี้ยงดูปากท้องคนในชาติ แทนที่จะส่งน้ำมันออกไปขายยังประเทศอื่นๆ
“ไม่มีอะไรที่ปกติในเวเนซุเอลา พวกเราจะไม่ยอมให้สถานการณ์เช่นนี้ถูกพิจารณาว่าเป็นเรื่องปกติ และนั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราถึงต้องประกาศสถานะเตือนภัยนี้”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: