กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในค่ำคืนที่มีฟุตบอลนัดสำคัญลงสนามถึง 2 นัดในเกาะอังกฤษ หลังจากที่ เกปา อาร์ริซาบาลากา ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของเชลซี ค้านคำสั่งการเปลี่ยนตัวของ เมาริซิโอ ซาร์รี กุนซือชาวอิตาเลียน ในช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษ ในเกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้เอาชนะการดวลจุดโทษเชลซี ด้วยประตูรวมไป 4-3 และป้องกันแชมป์คาราบาวคัพได้สำเร็จ
โดยผู้รักษาประตูค่าตัว 71 ล้านปอนด์ ได้แสดงท่าทีปฏิเสธการเปลี่ยนตัวอย่างชัดเจน ก่อนที่ซาร์รีจะยอมไม่เปลี่ยนตัว และมีอาการโมโหอย่างรุนแรง จนเกือบจะตัดสินใจเดินออกนอกสนาม ทั้งที่เกมการแข่งขันยังไม่จบ
“ผมเข้าใจปัญหาผิดไป และรับรู้เรื่องราวทั้งหมด เมื่อแพทย์ของทีมมาถึงซุ้มม้านั่งสำรอง
“เกปาเข้าใจว่าผมขอให้เปลี่ยนตัว เพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ เขาบอกว่าเขาไม่มีปัญหาบาดเจ็บใดๆ ”
ขณะที่ผู้รักษาประตูวัย 24 ปี ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันข้อความของผู้จัดการทีมเขาว่า
“มันเป็นความเข้าใจผิด ผมไม่มีความต้องการที่จะไม่เชื่อฟังคำพูดของผู้จัดการทีม
“มันเป็นช่วงเวลา 2-3 นาทีแห่งความสับสน จนกระทั่งทีมแพทย์เดินกลับไปถึงม้านั่งสำรอง และอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้น
“เขาคิดว่าผมไม่สามารถเล่นต่อได้แล้ว ซึ่งผมก็แค่พยายามจะบอกว่าผมไม่เป็นไร”
โดยก่อนที่ความวุ่นวายจะเกิดขึ้น เกปาลงไปนั่งกับพื้นจากอาการตะคริว จนทำให้ทีมแพทย์ต้องวิ่งไปเช็กอาการ ทำให้ วิลลี กาบาเยโร ผู้รักษาประตูตัวสำรอง ออกมาวอร์มรอ ในช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษ
ซาร์รีแสดงท่าทีหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ที่ผู้รักษาประตูของเขาปฏิเสธที่จะออกจากสนาม แต่สุดท้ายเขาก็ยอมยกเลิกการเปลี่ยนตัว
“ผมเข้าใจทุกอย่างหลังจากที่ทีมแพทย์มาถึง ผมคุยกับกรรมการเพื่ออธิบายทุกอย่าง เพราะผมเข้าใจเหตุการณ์แล้ว
“มันเป็นความเข้าใจผิด เพราะเราเข้าใจว่าเกปาเป็นตะคริว และไม่สามารถลงดวลจุดโทษต่อได้ แต่สุดท้ายเราเข้าใจผิด และเขาก็สามารถลงเล่นต่อได้ ตอนนั้นผมเดินไปยังอุโมงค์ เพื่อสงบสติอารมณ์เท่านั้น”
ขณะที่ จอห์น เทอร์รี อดีตกัปตันทีมเชลซี ให้สัมภาษณ์กับ Sky Sport เชื่อว่า การออกมาอธิบายว่าเป็นความเข้าใจผิดของซาร์รีคือการปกป้องนักเตะของเขาเอง
“ไม่ว่าสุดท้ายจะมีบทลงโทษหรือการแก้ปัญหาอะไรก็ตามในห้องแต่งตัวหลังจากนั้น แต่สำหรับการพูดออกสื่อครั้งนี้ คือการปกป้องนักเตะของเขา”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
