วันนี้ (31 ม.ค.) บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท แกร็บ โฮลดิ้งส์ อิงค์ เพื่อลงทุนในแกร็บ ประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6 พันล้านบาท) โดยเป็นการเข้าถือหุ้นแบบไม่มีอำนาจควบคุมในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ New Experience Economy และดำเนินตามโมเดลไทยแลนด์ 4.0
หลักๆ แล้ว ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการนำสินค้าและบริการของเซ็นทรัลกระจายเข้าไปอยู่บนแพลตฟอร์มของ Super App อย่างแกร็บ เชื่อมต่อบริการออฟไลน์และออนไลน์เข้าหากันแบบไร้รอยต่อ (Seamless) เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ (เริ่มจากการให้บริการส่งอาหารเป็นลำดับแรก ก่อนขยายไปยังบริการอื่นๆ ในช่วงเฟสถัดไป)
1. บริการส่งอาหาร – สามารถสั่งร้านอาหารจากแบรนด์ในเครือกลุ่มเซ็นทรัลหรือร้านในห้างเซ็นทรัลผ่านแกร็บฟู้ด โดยปัจจุบันมีร้านอาหารบางส่วนในเครือ CRG พร้อมให้บริการบนแกร็บแล้ว และจะครอบคลุมทุกร้านภายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้
2. บริการโลจิสติกส์ – จัดส่งพัสดุออนดีมานด์หรือพัสดุด่วนสำหรับธุรกิจในเครือเซ็นทรัลและพาร์ตเนอร์ผ่านแกร็บเอ็กซ์เพรส
3. บริการเดินทาง – อำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าออกห้างสรรพสินค้าของเซ็นทรัล รวมถึงนักท่องเที่ยวและแขกที่เข้าพักโรงแรมในเครือ
แอนโทนี ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ กล่าวว่า “การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการประสานความร่วมมือเป็นพันธมิตรครั้งสำคัญของสองบริษัทผู้นำในตลาด (ธุรกิจค้าปลีกและเทคโนโลยี) ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแกร็บที่มีต่อประเทศไทย ในการสร้างโอกาสทางอาชีพ และมอบความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศผ่านแพลตฟอร์มของเรา และช่วยให้สามารถขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ก้าวไกล”
ด้าน ญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เผยว่า อุตสาหกรรมรีเทลและอุตสาหกรรมบริการ ถือเป็น 2 ภาคอุตสาหกรรมสำคัญที่มีสัดส่วน 55% ของ GDP ประเทศไทย ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้ระหว่างทั้งแกร็บและเซ็นทรัล ก็จะช่วยผลักดันให้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เกิดขึ้นได้จริง ช่วยสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทย
“ประโยชน์ของความร่วมมือในครั้งนี้คือ ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าเซ็นทรัลได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านช่องทางของแกร็บ ผมมองว่า ยุคนี้ ถ้าใครสามารผนึกกำลังของออนไลน์และออฟไลน์เข้าหากันได้ไร้รอยต่อมากที่สุด คนนั้นก็จะเป็นผู้ชนะ”
ขณะที่ฝั่ง ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ในเดือนมกราคมนี้ แกร็บได้ทำยอดให้บริการการเดินทางครบ 3 พันล้านครั้ง โดยปัจจุบันมีจำนวนการเดินทางไม่ต่ำกว่า 1 แสนเที่ยวต่อวัน ส่วนแกร็บฟู้ดก็มีจำนวนการจัดส่งอาหารสูงกว่า 3 ล้านจาน โดยแกร็บโลจิสติกส์มีการเติบโตมากขึ้นถึง 2 เท่าตัว
“ผมอยากให้มองดีลนี้เป็นเหมือน Commitment (ความมุ่งมั่น) ที่แกร็บต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย ภาพลักษณ์ของเราตอนนี้จะไม่ใช้บริษัทต่างชาติอีกต่อไป (เพราะเซ็นทรัลลงทุนในแกร็บไทยโดยตรง) เราพร้อมจะลงทุนและพัฒนาภาคธุรกิจบริการของเราในระยะ 10 ปีต่อจากนี้ เราจริงจังกับการพัฒนาธุรกิจในไทย และสนับสนุนพาร์ตเนอร์ (คนขับ, ร้านอาหาร หรือผู้ประกอบการธุรกิจ SME) ให้เติบโตต่อไป”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล