เพราะสุขภาพไม่ใช่เรื่องของโรงพยาบาล การเจ็บป่วย หรือยารักษาโรคอีกต่อไป แต่สุขภาพได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ครอบคลุมทั้งอาหาร ความงาม การออกกำลังกาย การนอน และการใช้ชีวิตที่มีเรื่องของสุขภาพเข้ามาเกี่ยวโยงกับคนรุ่นใหม่เกือบจะตลอด 24 ชั่วโมง นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพในเมืองไทยเติบโตอย่างฉุดไม่อยู่ เช่นเดียวกับผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงามอย่าง แอมเวย์ ที่ได้นำคำว่าสุขภาพมาผสานกับไลฟ์สไตล์และสร้างประสบการณ์ใหม่จนส่งให้ปีนี้เป็นอีกปีทอง โดยคาดว่าปีนี้แอมเวย์มียอดขายรวมทะลุ 19,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 4% โดย กิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ย้ำว่า
“คุณภาพของผลิตภัณฑ์คือสิ่งที่แอมเวย์ยึดมั่นมาตลอด 31 ปี แต่สิ่งที่กำลังเปลี่ยนไปคือประสบการณ์ด้านสุขภาพและความงามใหม่ๆ ที่เราพัฒนาขึ้นเพื่อให้ตอบรับกับโจทย์ด้านไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่หลากหลายขึ้นและแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เช่นในเรื่องการออกกำลังกาย คนรุ่นใหม่อาจไม่ได้ต้องการน้ำหนักที่ลดลงแบบเมื่อก่อน ทว่ากลับมุ่งไปที่การเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ ซึ่งแอมเวย์เองก็ต้องศึกษาไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปเหล่านี้และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อมาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคยินดีที่จะซื้อสินค้าที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดีกว่าเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น (Well-being) โดยแอมเวย์มีผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนแล้ว”
และเพื่อเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แอมเวย์จึงเดินหน้าต่อยอดตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามอย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ควบคุมน้ำหนัก ‘บอดี้คีย์ บาย นิวทริไลท์’ (BodyKey by Nutrilite) ซึ่งมียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 5,200 ล้านบาท ภายในเวลา 3 ปี
ด้านผลิตภัณฑ์ความงาม แอมเวย์ได้เน้นการนำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัย โดยมี ‘อาร์ทิสทรี ซิกเนเจอร์ ซีเล็กต์ เพอร์เซอนัลไลซ์ ซีรัม’ (Artistry Signature Select Personalized Serum) ผลิตภัณฑ์เรือธงที่แตกต่างด้วยการให้ผู้ใช้สามารถออกแบบสูตรซีรั่มเฉพาะของตนเอง เพื่อตอบทุกโจทย์ความต้องการของผิวที่แตกต่างกันไป
และล่าสุดแอมเวย์ได้ขยายตลาดไปสู่คนรุ่นใหม่ด้วยการเปิดตัว ‘เอ็กซ์เอส ซีโร่’ เครื่องดื่ม 0% น้ำตาลและแคลอรี ภายใต้แนวคิด ‘XSperience More ท้าให้คุณทำได้มากกว่าที่คิด’
เรียกได้ว่าเป็นการพลิกโฉมภาพลักษณ์แอมเวย์ครั้งใหญ่ให้แอ็กทีฟและสดใสขึ้น สอดรับกับเทรนด์เครื่องดื่มเอเนอร์จีดริงก์ในประเทศไทยที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจนในกลุ่มคนรุ่นใหม่
ในส่วนของความงาม แน่นอนว่าอาร์ทิสทรีเป็นแบรนด์เครื่องสำอางพรีเมียมที่มียอดขายอันดับ 1 ของประเทศไทย* ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนไปคือการเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ด้วยการแตกแบรนด์ออกไปเป็นแบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่ ‘อาร์ทิสทรี สตูดิโอ’ ผลิตภัณฑ์กลุ่มคัลเลอร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเมืองใหญ่สุดฮอตทั่วโลก โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้เปิดตัวเครื่องสำอางคอลเล็กชันแรก ‘อาร์ทิสทรี สตูดิโอ เอ็นวายซี เอดิชัน’ (Artistry Studio NYC Edition) ที่ดึงสีสันความสนุกจากมหานครนิวยอร์กมาสร้างประสบการณ์ใหม่และแตกต่าง พร้อมดึงศิลปินชื่อดังของนิวยอร์กอย่าง ‘เลดี้ เจเดย์’ (Lady JDay) มาร่วมออกแบบแพ็กเกจให้โดนใจผู้บริโภคกลุ่มนิวเจน ซึ่งหลังจากเปิดขายเพียง 2 วันสินค้าก็ขาดตลาด และคาดว่ายอดขายรวมของอาร์ทิสทรีสิ้นปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่ 2,200 ล้านบาท
สำหรับในปี 2019 แอมเวย์ยังคงเดินหน้าต่อยอดตลาดคนรุ่นใหม่ แน่นอนว่าโจทย์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลนั้นเป็นความท้าทายของการตลาด แต่กิจธวัชกลับทิ้งท้ายว่าผู้บริโภคจะได้พบเจอประสบการณ์สุขภาพและความงามใหม่ๆ ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์แอ็กทีฟจากแอมเวย์อย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: Euromonitor International Limited.