ผลจากการศึกษาทั้งสองชิ้นใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Internal Medicine ไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 กรกฎาคม) ระบุตรงกันว่า การบริโภคกาแฟมากขึ้นอาจช่วยยืดอายุให้ยืนยาวขึ้นได้ การค้นพบนี้ได้เปลี่ยนโฉมหน้าเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพของกาแฟที่เชื่อกันมานานนับศตวรรษว่าการดื่มกาแฟนั้นอาจจะส่งผลเสียบางประการต่อสุขภาพ
โดยการศึกษาชิ้นแรกได้ทำการสำรวจในผู้คนจำนวนมากถึง 520,000 คน จาก 10 ประเทศในแถบยุโรป เป็นการศึกษาเกี่ยวกับกาแฟและอายุซึ่งมีขนาดของการวิจัยใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และค้นพบว่ายิ่งดื่มกาแฟก็ยิ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนการศึกษาชิ้นที่สอง โฟกัสในกลุ่มประชากรตัวอย่างที่ไม่ใช่คนผิวขาว โดยทำการสำรวจในหมู่ชาวอเมริกันผิวสีจำนวน 185,000 คน ซึ่งมีทั้งเชื้อสายแอฟริกัน ชาวอเมริกันเชื้อสายพื้นเมืองฮาวาย ชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น และชาวอเมริกันที่มีเชื้อสายละติน พบว่าการบริโภคกาแฟช่วยยืดให้อายุยืนยาวขึ้นในคนหลายเชื้อชาติ
Photo: Shaiith/shutterstock
ผลการวิจัยยังระบุอีกว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟระหว่าง 2-4 แก้วต่อวันมักจะมีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟถึง 18 เปอร์เซ็นต์ การค้นพบนี้จึงสอดคล้องกับการศึกษาชิ้นแรก ซึ่งเป็นการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างที่ส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาว
เวโรนิกา เวนดี เซเทียวัน รองศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์ป้องกันของสถาบัน Keck School of Medicine of USC ซึ่งเป็นผู้ทำการวิจัยกับกลุ่มคนอเมริกัน ยกเว้นคนผิวขาว กล่าวว่า
“แม้กลุ่มตัวอย่างของเราจะมีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย มีนิสัยและพฤติกรรมในการบริโภคที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม เราพบว่ามีรูปแบบบางอย่างที่คล้ายคลึงกันอยู่”
การศึกษาชิ้นใหม่นี้แสดงให้เห็นว่า มีความเป็นไปได้ที่ปัจจัยทางชีวภาพจะมีความเชื่อมโยงกันระหว่างการบริโภคกาแฟและการมีชีวิตที่ยืนยาว ซึ่งส่งผลต่อการลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคเกี่ยวกับระบบหายใจ ภาวะสมองขาดเลือด และโรคไต
ในขณะที่การศึกษาจากทางฝั่งยุโรปเปิดเผยถึงความผกผันที่เกี่ยวพันระหว่างกาแฟและโรคตับ การฆ่าตัวตายในผู้ชาย มะเร็งในผู้หญิง โรคระบบทางเดินอาหาร โรคระบบไหลเวียน โดยคนที่ดื่มกาแฟ 3 แก้วขึ้นไปต่อวัน มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากสาเหตุดังกล่าวน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟ
“เราสำรวจประชากรในประเทศต่างๆ ทั่วยุโรป ซึ่งมีวิธีในการดื่มและชงกาแฟที่แตกต่างกัน และพบว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับสารประกอบบางอย่างที่มีอยู่ในกาแฟมากกว่าที่จะเกี่ยวกับวิธีการชงกาแฟ หรือวิธีการดื่มกาแฟที่แตกต่างกัน” มาร์ค กุนเทอร์ ผู้ทำการศึกษาด้านมะเร็ง ระบาดวิทยา และการป้องกัน จากโรงเรียนด้านสาธารณสุขวิทยา Imperial College School of Public Health หนึ่งในผู้ร่วมทำการวิจัยในฝั่งยุโรปกล่าว
กาแฟมีส่วนผสมที่ซับซ้อน ซึ่งบางอย่างได้รับการเปิดเผยจากห้องปฏิบัติการแล้วว่ามีผลทางชีวภาพ งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าสารประกอบบางอย่างของกาแฟช่วยในเรื่องระบบประสาท ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคพาร์กินสัน ทั้งยังลดอาการอักเสบได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสารประกอบใดของกาแฟที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้การศึกษาทั้งสองชิ้นดังกล่าวยังได้แยกกลุ่มของผู้ดื่มกาแฟที่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่ กับกลุ่มผู้ดื่มกาแฟที่ไม่สูบบุหรี่ด้วย เนื่องจากตระหนักดีว่าผู้ที่ดื่มกาแฟจำนวนไม่น้อยมีพฤติกรรมชอบสูบบุหรี่ แต่การกระทำเช่นนั้นก็มีผลต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค และทำให้มีช่วงอายุที่สั้นลงด้วย
กล่าวโดยสรุปจากงานวิจัยทั้งสองก็คือ การบริโภคกาแฟในปริมาณที่เหมาะสม ก็ไม่น่าที่จะทำให้เกิดอันตรายขึ้นกับคุณแต่อย่างใด
Cover Photo: Alpha_7D/shutterstock
อ้างอิง:
