อาจเรียกได้ว่า กระบวนการยุติธรรมหรือระบบของศาลในอินเดียกำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา มีมติให้การมีเพศสัมพันธ์ของกลุ่มคนรักร่วมเพศไม่ถือว่าเป็นอาชญากรรมอีกต่อไป รวมถึงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ศาลท้องถิ่นในรัฐเกรละยังอนุญาตให้คู่รักเลสเบี้ยนชาวอินเดียสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย
ล่าสุด เมื่อวานที่ผ่านมาศาลสูงอินเดียมีมติพิจารณาให้การมีชู้ หรือการผิดประเวณีกับคู่สมรสของตน ไม่ถือว่าเป็นอาชญากรรมอีกแล้วภายในประเทศนี้ โดยให้เหตุผลว่า ตัวบทกฎหมายดังกล่าวที่เป็นมรดกตกทอดจากช่วงอาณานิคมนี้ ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย และมุ่งเน้นเลือกปฏิบัติต่อหญิงอินเดีย
กฎหมายที่ประกาศใช้มานานกว่า 100 ปีนี้ ระบุว่า ชายใดก็ตามที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงที่สมรสแล้ว และปราศจากการยินยอมจากชายผู้เป็นสามี จะมีความผิดฐานคบชู้ และอาจต้องจำคุกสูงสุดนานถึง 5 ปี โดยดูเหมือนว่ากฎหมายฉบับนี้มุ่งเน้นไปที่เพศชายเป็นสำคัญ และปฏิบัติต่อเพศหญิงราวกับเป็นเพียงวัตถุหรือทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายได้ของชายผู้เป็นสามีเท่านั้น
D.Y. Chandrachud หนึ่งในคณะผู้พิพากษาศาลสูง ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวเพิกเฉยต่อสิทธิในเรือนร่าง รวมถึงสิทธิทางเพศของผู้หญิงที่พวกเขาควรจะมีสิทธิในการตัดสินใจนี้ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับการยินยอมจากสามีแต่อย่างใด ซึ่งทางศาลมองว่า ประเด็นเรื่องการผิดประเวณีเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ความเชื่อใจกันและความแน่นแฟ้นของความสัมพันธ์ขึ้นอยู่กับคู่รักหรือคู่แต่งงานแต่ละคู่ที่จะต้องออกแบบและจัดการกันให้ดี
ทางด้านกลุ่มทนายความของรัฐบาลมองว่า กฎหมายนี้ควรจะต้องประกาศใช้ต่อไป มติของศาลสูงในวันนี้จะเป็นการคุกคามธรรมเนียมปฏิบัติเรื่องการแต่งงาน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบด้านลบต่อตัวเด็กและสถาบันครอบครัวในอนาคต
แต่ก็มีกลุ่มทนายความที่สนับสนุนมติในครั้งนี้จำนวนไม่น้อย โดยระบุว่า การปรับเปลี่ยนตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือที่คำนึงถึงสิทธิในตัวผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเนื่องจากระบบศาลของอินเดียกำลังยึดมั่นอยู่กับคุณค่าเสรีนิยมและรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: