กองทัพรัสเซียเปิดฉากซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น มีทหารจากทุกเหล่าทัพเข้าร่วมอย่างน้อย 300,000 คน ยานรบ 36,000 คัน และเครื่องบิน 1,000 ลำ ขณะที่จีนส่งทหารหลายพันคน พร้อมยุทโธปกรณ์จำนวนมากเข้าร่วมซ้อมรบด้วยเป็นครั้งแรก
การซ้อมรบครั้งประวัติศาสตร์ภายใต้รหัส Vostok 2018 เปิดฉากขึ้นคู่ขนานกับการประชุมระหว่างประธานาธิบดีสีจิ้นผิงกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน บนเวที Eastern Economic Forum ในเมืองวลาดิวอสต็อก โดย 2 ผู้นำให้คำมั่นว่าจะกระชับความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศในทุกมิติ ขณะที่ 2 ประเทศกำลังมีปัญหาไม่ลงรอยกับสหรัฐฯ โดยรัสเซียกำลังเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรที่เข้มขึ้นจากวอชิงตัน ขณะที่จีนถูกกดดันจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
สีจิ้นผิงแสดงจุดยืนว่า จีนและรัสเซียต่างต่อต้านมาตรการลงโทษเพียงฝ่ายเดียวและมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ และต้องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่และแชร์ชะตากรรมของมนุษย์ร่วมกัน
ขณะที่ปูตินกล่าวว่า ต้องการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีน ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจซึ่งกันและกันตั้งแต่ในมิติของการเมืองไปจนถึงการทหาร
“เรามีความเชื่อใจกันทั้งในด้านการเมือง ความมั่นคง และการทหาร” ปูตินกล่าว “รัสเซียทราบดีว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงมีเจตนารมณ์แรงกล้าที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย”
การซ้อมรบจะมีไปถึงวันที่ 17 กันยายนนี้ ภายในเขตกองทัพภาคตะวันออกของรัสเซียใกล้กับชายแดนจีนและมองโกเลีย โดยนอกจากจีนแล้ว มองโกเลียก็ส่งทหารเข้าร่วมซ้อมรบครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ส่วนการซ้อมใหญ่มีกำหนดเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.)
นอกจากรถถังและยานเกราะแล้ว กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเปิดเผยว่า จะมีการซ้อมยิงระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศแบบ S-300, S-400 และระบบปืนต่อสู้อากาศยาน Pantsyr-S ใน Vostok 2018 ด้วย
ก่อนหน้านี้ พล.อ. เซอร์เกย์ ชอยกู ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของรัสเซียระบุว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะมีขอบเขตที่กว้างใหญ่ ทั้งในแง่พื้นที่ซ้อมรบและจำนวนทหารที่เข้าร่วม และจะเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมานับตั้งแต่ยุคที่ยังเป็นสหภาพโซเวียต
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: