วันนี้ (28 ธันวาคม) พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.ตร.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ว่า ขณะนี้ประชาชนได้เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณรถบนถนนสายหลัก โดยเฉพาะเส้นทางขาออกจากกรุงเทพมหานคร มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จึงได้สั่งการให้ตำรวจจราจรและตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ ดำเนินมาตรการบริหารจัดการจราจรเชิงรุกอย่างเข้มข้น โดยเน้นการเร่งระบายรถในจุดคอขวดและช่วงเวลาที่มีความหนาแน่น พร้อมพิจารณาเปิดใช้ช่องทางพิเศษ (Reversible Lane) ตามความเหมาะสม เพื่อให้การจราจรคล่องตัวที่สุด โดยกำชับให้มีการติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
ด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศจร.ตร. กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยมุ่งเป้าไปที่พฤติกรรมเสี่ยงหลัก ได้แก่ การเมาแล้วขับ การขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด การไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
พร้อมฝากเตือนไปยังผู้ขับขี่ให้ตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถยนต์ ทั้งระบบเบรก ยาง และไฟส่องสว่าง ก่อนออกเดินทาง รวมถึงต้องพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการขับขี่ขณะง่วงนอน หรือมึนเมา ทั้งนี้ กองบังคับการตำรวจทางหลวงได้จัดเตรียมห้องพัก ณ หน่วยบริการประชาชนทั่วประเทศไว้คอยบริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนยังคงน่าเป็นห่วง พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์อำนวยจราจร ศจร.ตร. เปิดเผยข้อมูลจากมูลนิธิเมาไม่ขับ ระบุว่า เพียงช่วงวันที่ 1–26 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสะสมแล้วกว่า 1,007 ราย ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันลดพฤติกรรมเสี่ยงและเพิ่มความระมัดระวังบนท้องถนนอย่างจริงจัง
ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎจราจร ใช้รถใช้ถนนด้วยสติและความรับผิดชอบ เพื่อลดความสูญเสียในช่วงเทศกาลแห่งความสุขนี้
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทาง แจ้งเหตุด่วน หรือขอความช่วยเหลือระหว่างการเดินทาง สามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางดังนี้:
- สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร: โทร. 1197
- สายด่วนตำรวจทางหลวง: โทร. 1193
- สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ: โทร. 191 และ 1599


