วันนี้ (20 ธันวาคม) ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีพฤติกรรมใช้อำนาจข่มขู่ คุกคามผู้สมัคร สส. และสร้างความหวาดกลัวต่อการหาเสียงเลือกตั้ง
ประเสริฐกล่าวว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย ได้รับการแจ้งจากผู้ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ของพรรคเพื่อไทย รวมไปถึงสมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนพรรคในหลายพื้นที่ ถึงพฤติกรรมของบุคคลและกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่สุ่มเสี่ยงที่จะเข้าข่ายการใช้อำนาจข่มขู่คุกคาม ผู้ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ของพรรค ตลอดจนทีมงานและพี่น้องประชาชนที่สนับสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ในเชิงที่ทำให้เกิดความกังวลหรือเกรงกลัวที่จะเดินหน้าหาเสียงสนับสนุนพรรคเพื่อไทย จากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลต่างอุดมการณ์การเมือง รวมถึงอาจมีบางพื้นที่ที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดการใช้อำนาจมิชอบด้วย
พร้อมกำชับไปยังทุกภาคส่วนของพรรคเพื่อไทย ให้เตรียมเก็บหลักฐานและพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายข่มขู่คุกคามหรือการกระทำที่อาจจะส่อไปในทางที่เกิดการใช้อำนาจในทางที่มิชอบ เพื่อที่จะเป็นหลักฐาน ส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ประเสริฐกล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และรัฐบาลในฐานะที่กำกับดูแลทุกภาคส่วน จะต้องไม่ปล่อยให้มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น ต้องให้กำกับดูแลเรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงเริ่มเข้าสู่โหมดการหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุด โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการหาเสียงเลือกตั้ง ในขณะที่บางสีบางกลุ่มซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านลบเรื่องการใช้อำนาจที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม กำลังมีอำนาจอยู่ จึงไม่ควรปล่อยให้ช่องว่างช่องโหว่ที่สุ่มเสี่ยงจะถูกครหาว่ามีการใช้อำนาจมิชอบในการเลือกตั้ง
ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยได้กำชับไปยังทุกภาคส่วนของพรรคให้เตรียมการเก็บหลักฐาน พฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายการใช้อำนาจในการข่มขู่ทุกคาม หรือการกระทำที่ส่อว่าอาจจะเกิดการใช้อำนาจมิชอบทั้งหมด เพื่อนำมาประมวลและร้องต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุด
ส่วนประเด็น ไชยา พรหมา อดีต สส. หนองบัวลำภู ที่ได้ลาออกไปนั้นไม่ได้มีปัญหา พรรคเพื่อไทยหาผู้สมัครฯ มาลงในเขตดังกล่าวแล้ว โดยไชยาได้ส่งหนังสือลาออกผ่านมายังพรรคเพื่อไทยพร้อมขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ได้ร่วมงานกัน โดยในหนังสือลาออกระบุเหตุผลว่า “ได้ตัดสินใจด้วยเหตุผลทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ส่วนตนแต่อย่างใด” อย่างไรก็ตามขณะที่ ไชยาอยู่ในพรรคเพื่อไทย ได้รับการสนับสนุนเป็นรองประธานสภาฯ และร่วมกิจกรรมพรรคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่สุดแล้วพรรคก็รับทราบและเคารพการตัดสินใจของไชยา ซึ่งพรรคก็ดำเนินการหาผู้สมัครฯ ใหม่พร้อมแล้ว
ด้าน ชูศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความต่างจากทุกครั้ง คือเกิดการย้ายพรรคกันเป็นว่าเล่น และอาจกล่าวได้ว่า เป็นการทำการเมืองแบบ Money Politics คือการใช้เงินกันมหาศาลเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมืองและเข้ามาถอนทุน ซึ่งวงจรอุบาทว์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นและอันตรายต่อประเทศ จึงอยากฝากไปยังพรรคการเมืองทั้งหลายว่า อย่าทำ และขอให้คำนึงถึงประเทศชาติและประชาธิปไตย
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยคาดการณ์ว่า จะเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดโดยใช้ปัจจัยเป็นเรื่องหลัก และอาจนำไปสู่กระบวนการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งในสัปดาห์หน้าพรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งศูนย์ปราบโกงดูแลการเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม


