วันนี้ (19 พฤศจิกายน) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ ได้กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปยื่นหลักฐานต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ยึดและอายัดทรัพย์เพิ่มเติมมูลค่า 2,500 ล้านบาท ของ ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคกล้าธรรม และเครือข่าย โดยก่อนหน้านี้ยึดอายัดไปแล้วประมาณ 150 ล้านบาท
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้ชี้แจงถึงข้อกล่าวหาของอัจฉริยะที่ระบุว่าตำรวจส่งข้อมูลให้ ปปง. ดำเนินการไม่ครบถ้วน โดยยืนยันว่า ข้อมูลที่ตำรวจยื่นไปเบื้องต้นเพียง 36 ล้านบาท เป็นเพียงการตั้งต้น
สำหรับข้อมูลทรัพย์สินมูลค่า 2,500 ล้านบาท ที่ อัจฉริยะนำมายื่นนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่าตนไม่ทราบว่าข้อมูลดังกล่าวมาจากแหล่งใด แต่หากอัจฉริยะมีหลักฐานจริง ก็สามารถยื่นให้ ปปง. ได้ทันที โดยถือเป็นการช่วยกันทำงาน
รองจเรตำรวจแห่งชาติกล่าวต่อไปถึงขั้นตอนการทำงานของ ปปง. ว่า หลังจากที่ตำรวจส่งข้อมูลไปเบื้องต้น หน้าที่ของ ปปง. คือ ต้องตั้งคณะกรรมการสืบทรัพย์ เพื่อดำเนินการต่อ
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยังได้แสดงความเห็นต่อกรณีที่อัจฉริยะตั้งคำถามและแสดงท่าทีต่อเจ้าหน้าที่ ปปง. ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ โดยระบุว่า อัจฉริยะ วางตัวดูมีอำนาจ และจี้ถาม ปปง. ว่า “คุณต้องตอบให้ตรงคำถามที่ผมถาม” พร้อมตั้งคำถามว่าการแสดงท่าทีเช่นนี้ทำถูกต้องหรือไม่ และการไปไล่บี้เรื่องทรัพย์สินของ สส.ชนนภัฒฐ์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการนั้นท่านต้องการอะไร
ส่วนกรณีที่อาจมองว่าเป็นข้อผิดพลาดของตำรวจชุดดำเนินคดี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้กล่าวว่า สำนักงาน ปปง. เคยแสดงความขอบคุณชุดจับกุม ที่นำเสนอพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และมีบันทึก ทำให้การซักทอดของเจ้าของเว็บพนันนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ได้ ซึ่งส่งผลให้ ปปง. มีความมั่นใจในการออกคำสั่งยึดอายัดทรัพย์ ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเว็บพนัน


