ความฝันในการมีชีวิตที่ไม่ต้องทำงาน ใช้ชีวิตทุกวันเป็นวันหยุด เป็นที่สุดปรารถนาของใครหลายคน การได้โบกมือลาชีวิตการทำงานที่แสนวุ่นวายตั้งแต่อายุยังน้อย ดูเหมือนจะเป็นรางวัลสำหรับความเหน็ดเหนื่อยตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ แค่มีเงินเก็บอย่างเดียวอาจไม่พอ
แท้จริงแล้ว เบื้องหลังกระแส Early Retire หรือ ‘เกษียณก่อนวัย’ ไม่ได้มีแค่ความปรารถนาอยากมีอิสระเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เช่น การถูกเลย์ออฟ ปัญหาสุขภาพ หรือความเบื่อหน่ายจากสภาพแวดล้อมในการทำงาน การเกษียณก่อนวัยจึงเป็นทั้งทางเลือกและบางครั้งก็เป็นทางออกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางนี้ด้วยเหตุผลใด การเตรียมตัวที่รอบด้านจะช่วยให้ชีวิตอิสระนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน หากเราอยากเกษียณก่อนวัยอย่างมีความสุขและไม่กลับไปทำงานอีก เราต้องมี 7 ข้อนี้เพื่อชีวิตหลังเกษียณที่ปลอดภัยและมั่นคง
1. ไร้หนี้สิน
นี่คือด่านแรกที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้ส่วนบุคคล หรือหนี้รถยนต์ (ยกเว้นอาจเป็นหนี้บ้านที่มีดอกเบี้ยต่ำที่ยังพอรับได้) เพราะหนี้สินเหล่านี้จะกัดกินกระแสเงินสดและผลตอบแทนจากการลงทุนของเรา
การไม่มีภาระหนี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายรายเดือนลงได้อย่างมหาศาล ทำให้เงินที่เราต้องเตรียมไว้ใช้หลังเกษียณลดลงตามไปด้วย
2. ตั้งงบค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ
การคำนวณเงินเกษียณต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เราต้องรู้ว่า ‘เงินที่ต้องใช้ต่อเดือนหลังเกษียณคือเท่าไหร่’ ซึ่งค่าใช้จ่ายอาจไม่ได้เหมือนตอนทำงาน เช่น ค่าเดินทางอาจลดลง แต่ค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพอาจเพิ่มขึ้น ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียดเพื่อกำหนดตัวเลขค่าใช้จ่ายรายปีที่แท้จริง ซึ่งจะเป็นฐานในการคำนวณเงินเก็บที่เราต้องการ
การประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นตลอดช่วงเกษียณ ต้องระวังไม่ให้ประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะจะทำให้เงินไม่พอใช้ได้ เช่น ถ้าเราคาดการณ์ค่าใช้จ่ายโดยมีสมมติฐานว่าจะมีอายุถึง 80 ปี เราก็ควรวางแผนตั้งงบเผื่อเรามีชีวิตที่ยืนยาวไปถึง 90 ปี เพื่อป้องกันความไม่แน่นอนของอนาคต
การตั้งงบใช้จ่ายรายปีไว้ ยังช่วยเตือนให้เราใช้เงินอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ใช้จ่ายเกินตัวในวันที่เราหยุดทำงานและไม่มีรายได้หลักๆ เข้ามาอีกแล้ว
3. มีเงินเก็บที่มากเกินพอ
เมื่อเราทราบค่าใช้จ่ายรายปีแล้ว เราก็จะสามารถคำนวณจำนวนเงินเก็บที่เพียงพอในชีวิตเกษียณของเราได้ ซึ่งนอกเหนือจากการเงินเก็บขั้นต่ำที่ต้องใช้แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องมี เงินสำรอง ที่มากพอเพื่อรองรับความเสี่ยงที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจทำให้แผนเกษียณสะดุดได้
- เผื่อเงินเฟ้อสูงเกินคาด
หากช่วงที่เราเกษียณแล้ว อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จะทำให้มูลค่าเงินที่เราเก็บไว้ลดลงอย่างมาก และทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพสูงขึ้นกว่าที่ประเมินไว้แต่แรก การมีเงินเก็บส่วนเกินจะช่วยรองรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรงได้
- รองรับค่าใช้จ่ายสุขภาพ
แม้จะมีประกันแล้ว แต่ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุมีแนวโน้มสูงกว่าวัยอื่นมาก ควรมีเงินก้อนสำรองสำหรับการรักษาพยาบาลโดยเฉพาะ ซึ่งแยกต่างหากจากเงินทุนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้มั่นใจว่าปัญหาสุขภาพจะไม่มาทำลายความมั่นคงทางการเงิน
- ครอบคลุมเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในชีวิต เช่น การซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ การช่วยเหลือครอบครัว หรือวิกฤตเศรษฐกิจระดับโลก จำเป็นต้องใช้เงินก้อนฉุกเฉิน การมีเงินเก็บที่ ‘เกินพอ’ จึงเป็นเหมือน เบาะรองรับความเสี่ยง ที่สร้างความอุ่นใจและยืดหยุ่นให้แก่แผนเกษียณก่อนวัยของคุณ
หลักการคือ กำหนดเป้าหมายเงินเก็บที่เราต้องมีตามค่าใช้จ่ายรายปี แล้วบวกเพิ่มไปอีกอย่างน้อย 20%-30% ของจำนวนนั้น เพื่อเป็นเกราะป้องกันทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินเหลือไว้อุ่นใจกว่าเงินขาดมือ
4. เตรียมแหล่งรายได้หลายทาง
การเกษียณก่อนวัยไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องหยุดสร้างรายได้โดยสิ้นเชิง แต่หมายถึงการมีอิสระในการเลือกที่จะทำงานหรือไม่ทำงานก็ได้ และการมีแหล่งรายได้สำรองหรือ Passive Income ที่มั่นคง ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้แผนเกษียณของเรามีความยืดหยุ่นและยั่งยืน
แหล่งรายได้หลายทางนี้จะทำหน้าที่เป็น ‘กระแสเงินสดสำรอง’ ที่ช่วยลดการพึ่งพาเงินต้นที่เราเก็บไว้ และป้องกันความเสี่ยงที่เงินลงทุนจะหมดก่อนวัยอันควร แหล่งรายได้เหล่านี้อาจมาจาก
- ผลตอบแทนจากพอร์ตการลงทุน (เงินปันผล ค่าเช่า)
- รายได้จากงานอดิเรกที่ทำเงินได้ (เช่น ขายงานฝีมือ)
- รายได้จากทรัพย์สินให้เช่า
- เงินบำนาญจากประกันหรือสวัสดิการจากรัฐ
5. มีแผนดูแลสุขภาพ
ยิ่งเกษียณเร็ว สวัสดิการสุขภาพจากบริษัทก็จะหมดไป และเราต้องแบกรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเป็นระยะเวลานานขึ้น วางแผนเตรียมเงินก้อนสำหรับค่ารักษาพยาบาลโดยเฉพาะ และพิจารณาทำประกันสุขภาพหรือประกันโรคร้ายแรงที่ครอบคลุมไปจนถึงวัยชรา
สิ่งที่ต้องเตรียมและวางแผน
- ความคุ้มครองที่เพียงพอ: เลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับโรงพยาบาลที่เราต้องการใช้บริการ โดยพิจารณาวงเงินรักษารวมที่เพียงพอในกรณีเจ็บป่วยหนัก และเบี้ยประกันอยู่ในระดับที่เราจ่ายไหวอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
- คุ้มครองยาวนานตลอดชีพ: ซื้อแผนที่ คุ้มครองถึงอายุ 90-99 ปี ตั้งแต่ตอนที่สุขภาพยังดี เพื่อ ‘ล็อก’ อัตราเบี้ยและความคุ้มครองไว้ เพราะการซื้อประกันใหม่ในวัยสูงอายุทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
- สร้างกองทุนสุขภาพเฉพาะกิจ: จัดสรรเงินก้อนแยกต่างหากสำหรับค่าใช้จ่ายเล็กน้อย (เช่น ค่าหาหมอ OPD หรือค่าทำฟัน) เพื่อสงวนความคุ้มครองของประกันไว้สำหรับค่ารักษาพยาบาลก้อนใหญ่และวิกฤตสุขภาพเท่านั้น
- ดูแลสุขภาพ: ป้องกันดีกว่าแก้ด้วยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี และตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ เพราะสุขภาพที่ดีคือการประหยัดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่ดีที่สุด
6. มีกิจวัตรประจำวัน
การเกษียณคือการมีเวลาว่าง ‘ตลอดไป’ หากเราไม่มีแผนหรือกิจกรรมที่ชัดเจน ชีวิตจะขาดความกระตือรือร้นและอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือความเบื่อหน่าย วางแผนกิจกรรมที่เราหลงใหล เช่น เรียนรู้ภาษาใหม่ ออกกำลังกาย ทำสวน หรือเป็นอาสาสมัคร การมีตารางกิจกรรมที่เติมเต็มจะช่วยให้การเปลี่ยนผ่านจากวัยทำงานเป็นวัยเกษียณเป็นไปอย่างราบรื่น
พิจารณาทำงานพาร์ทไทม์หรืองานฟรีแลนซ์ที่สนใจและไม่ต้องรับผิดชอบหนักมาก นอกจากจะช่วยให้ได้เข้าสังคมและได้กระตุ้นสมอง การมีเงินรายได้เข้ามาบ้างจากการทำงานที่สนุกสนาน จะช่วยลดความรู้สึกผิดในการใช้เงินเก็บ และทำหน้าที่เป็นกระแสเงินสดสำรองที่ช่วยให้ไม่ให้รู้สึกเบื่อหน่ายจากการอยู่บ้านเฉยๆ ทั้งวัน
7. มีจุดมุ่งหมายในชีวิต
เงินและเวลาว่างเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ ‘จุดมุ่งหมาย’ คือเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อนชีวิต การเกษียณไม่ใช่จุดจบของการใช้ชีวิต แต่คือการเริ่มต้นของบทบาทใหม่ที่เราเป็นคนกำหนดเอง ค้นหาว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญต่อจิตใจของคุณ อะไรคือคุณค่าที่คุณต้องการสร้างให้แก่โลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลครอบครัว การช่วยเหลือสังคม หรือการทำตามความฝันที่ถูกเก็บซ่อนไว้ การมีจุดมุ่งหมายจะทำให้ชีวิตหลังเกษียณของคุณมีความหมายและเปี่ยมสุขอย่างแท้จริง
การเกษียณก่อนวัยเป็นไปได้จริงสำหรับทุกคนที่มีวินัยในการออมและการลงทุนอย่างหนัก แต่ความสำเร็จที่ยั่งยืนนั้นไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขในบัญชีเพียงอย่างเดียว การเตรียมความพร้อมทั้งด้านการเงิน สุขภาพ และที่สำคัญที่สุดคือ ความพร้อมทางด้านจิตใจ และการมีแผนชีวิตหลังเกษียณที่ชัดเจน จะช่วยให้เรามีอิสรภาพทางการเงินมาพร้อมกับความสุขในชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ภาพ: Colin Anderson Productions pty ltd/ Getty Images
อ้างอิง:


